วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

Google Apps สามารถรับ Email ที่ Sender IP ติด Blacklist ได้หรือไม่



90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการอีเมล์ทั่วไป จะมีระบบป้องกัน spam mail แบบ Real-time Black hole list (RBL) เปรียบเสมือนสมุดที่มีรายชื่อของพวก spam และ blacklist อยู่ และจะทำการบล็อค IP นั้นๆทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ขยะเข้ามาได้อีก ฟังดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดี แต่ช้าก่อน การโดนบล็อคทั้ง IP ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะนั่นทำให้คุณไม่สามารถรับอีเมล์ที่ดีจาก IP นั้นๆไปด้วย

แล้วจะทำอย่างไร?

จากที่กล่าวไปแล้วว่ามี 90เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการอีเมล์ที่ใช้ระบบนี้ แปลว่ายังมีอีกประมาน 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการ ที่มีระบบแตกต่างจากระบบข้างต้น

หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้งที่ดี มีมาตรฐาน คุณควรเลือกผู้ให้บริการที่มีระบบ Spam Guard ที่มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน และหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ก็คือ Google Apps

ระบบการป้องกันของ Google Apps

Google Apps มีระบบ Spam Guard ที่มีความฉลาดในการแยกแยะอีเมล์ว่าอีเมล์นั้นๆเป็นอีเมล์ที่ดีหรือไม่ ด้วยความที่ Google มีฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ ทำให้สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่าอีเมล์นั้นๆสมควรปล่อยผ่านหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมโดยวัดจากพฤติกรรมของผู้ใช้ หากว่าอีเมล์ฉบับนั้นเคยถูกปล่อยผ่านเข้าไปใน Inbox แล้วผู้ใช้ไม่เปิดอ่าน ลบทิ้งบ่อยๆ จะเกิดการเรียนรู้ว่าอีเมล์ฉบับนั้นมีความผิดปกติ ซึ่งในกรณีที่เห็นว่าอีเมล์ฉบับใดไม่น่าไว้ใจ Google จะไม่บล็อคทั้ง IP
แต่จะบล็อคแค่อีเมล์ที่มีปัญหาเท่านั้น นั่นจึงสรุปได้ว่า Google Apps สามารถรับอีเมล์ที่ Sender IP ติด Blacklist ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง
[OS X] วิธี Sync ปฏิทินของ Gmail ลงบน Mac
Google Apps สามารถกรอง Spam Junk ได้แม่นยำแค่ไหน
วิธีการแชร์ Google Spreadsheets ให้คนอื่น

ความแตกต่างระหว่างดูอย่างเดียวกับแก้ไขได้ในการแชร์ Google Apps



ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี




Google Apps สามารถกรอง Spam Junk ได้แม่นยำแค่ไหน



นอกจากเรื่องความเสถียรของระบบแล้ว สิ่งที่ผู้ใช้บริการ Google Apps ให้ความเชื่อมั่นคือ เรื่องการกรอง สแปม (Spam) ที่มีความแม่นยำค่อนข้างสูง เนื่องจาก Google มีฐานข้อมูลอยู่ในมือมากมาย ทำให้สามารถนำฐานข้อมูลที่มีอยู่นั้น มาวิเคราะห์ได้ว่าอีเมล์นั้นๆมีสแปม (Spam) หรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น

- คุณซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านหน้าเว็บไซต์ของสายการบิน ทางสายการบินส่งอีเมล์ยืนยันกลับมา อีเมล์จากสายการบินนั้นเข้าไปอยู่ใน Inbox ของคุณตามปกติ แต่เมื่อทางสายการบินนั้นส่งอีเมล์โปรโมชั่นมาให้คุณ อีเมล์ฉบับนั้นกลับไปอยู่ใน Folder Spam


- บริษัท A ส่งอีเมล์ประกาศวันหยุดประจำปีให้แก่พนักงานจำนวนมาก ภายในครั้งเดียว ซึ่งลักษณะการส่งนี้เข้าข่ายเป็นอีเมล์ขยะ แต่ Google นั้น สามารถแยกแยะและนำอีเมล์ฉบับนี้ไปอยู่ใน Inbox ได้

เห็นหรือไม่ว่า Google Appsนั้น มีความสามารถในการกรองสแปมขนาดไหน ถ้าไม่ใช้เสียดายแย่



ความแตกต่างระหว่างดูอย่างเดียวกับแก้ไขได้ในการแชร์ Google Apps


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี







วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิธีหยุดการทำงานบัญชีอีเมล์ชั่วคราวบนโปรแกรม MS Outlook


ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอวิธีการหยุดการทำงานชั่วคราวของ Outlook ไปแล้ว โดยวิธีการเข้าไปเปิด Offline Mode แต่วิธีการนั้น จะทำให้ทุกๆบัญชีอีเมล์ของคุณ ไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด หากคุณมีบัญชีอีเมล์อยู่หลายบัญชี แต่ต้องการหยุดการทำงานแค่บางบัญชีจะมีวิธีการอย่างไร มาดูกัน

วิธีหยุดการทำงานบัญชีอีเมล์ชั่วคราว สามารถทำได้ดังต่อไปนี้





1. ไปที่ Send/Receive
2. เลือก Send/Receive Groups
3. เลือก Define Send/Receive Groups



4. เลือก Edit





5. เอาเครื่องหมายในช่อง Include the selected account in this group ออก
6. กด OK



บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี



จะเกิดอะไรขึ้น หากส่งไฟล์เกิน 20 MB

ในการรับส่งอีเมล์ มักจะมีข้อจำกัดของขนาดไฟล์อยู่ที่ 20 MB ซึ่งแม้ว่าผู้ให้บริการของคุณจะสามารถให้ขนาดไฟล์ได้มากกว่า 20 MB แต่ก็ไม่สามารถส่งถึงผู้รับได้ เนื่องจากผู้ให้บริการของผู้รับมีลิมิตที่ต่างกัน ซึ่งโดยส่วนมากมักจะให้ไม่เกิน 20 MB


จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณส่งไฟล์เกิน 20 MB

1. เกิด Reject เพราะ Server ปลายทางไม่สามารถรองรับไฟล์ที่มีขนาดเกิน 20 MBได้


Server ปลายทาง Reject กลับมา เพราะขนาดไฟล์ใหญ่เกินไป 





2. ไม่มีอะไรตีกลับ เพราะ Server ปลายทาง ไม่ได้ตั้งไว้


หาก Server ปลายทาง ไม่ได้ตั้งไว้ให้ Reject จะไม่มี Error ตอบกลับและจะนำอีเมล์ไปไว้ที่ถังขยะ





ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิธี Test send receive บนโปรแกรม outlook


วิธีการ Test Send/Receive บนโปรแกรม Outlook

การ Test Send/Receive สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการกดที่ปุ่มดังภาพ







หากมีคนส่งอีเมล์เข้ามาหาคุณแล้วใน Outlook ไม่แสดงผลให้กดที่ Send/Receive เมื่อกดแล้ว อีเมล์ที่ค้างอยู่จะสามารถส่งออกและเข้าถึงได้ โดยอีเมล์ที่ค้างอยู่ในขาออก จะถูกดีดออกไป ในขณะเดียวกันอีเมล์ที่ค้างอยู่ในขาเข้า ก็จะถูกดูดเข้ามาในระบบเช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว โปรแกรม Outlook จะทำการ Send/Receive อัตโนมัติในทุกๆ 5 นาที 






ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี

การทำงานของ Offline Mode ใน Outlook เป็นอย่างไร

โดยปกติ ในการใช้งานอีเมล์ผ่านโปรแกรม Outlook จะนิยมตั้งค่าแบบ POP เพื่อให้โปรแกรม ดูดข้อมูลจาก Server ลงมาเก็บในเครื่อง ซึ่งหากมีสัญญาณ Internet โปรแกรมจะทำการดูดข้อมูลลงเครื่องอัตโนมัติ แต่ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณ Internet จะทำให้เกิด error เด้งตลอดเวลา ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆ โดยการเข้าไปเปิดโหมดออฟไลน์ เพื่อทำการระงับการดูดข้อมูลชั่วคราว



การทำงานของ Offline Mode มีดังนี้

เมื่อเราเปิดโหมดออฟไลน์ โปรแกรม Outlook จะไม่ดูดอีเมล์ลงมาเก็บในเครื่อง ซึ่งมักจะใช้งานในขณะที่ ไม่มีสัญญาณ  Internet เพื่อไม่ให้โปรแกรม เด้ง Error ตลอดเวลา และสามารถปิดโหมดออฟไลน์ เพื่อให้โปรแกรมดูดข้อมูลได้ตามปกติอีกครั้ง เมื่อมีสัญญาณ Internet






ไปที่ Send/Receive แล้วคลิก Work Offline 








ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี


วิธีตั้งค่าในโปรแกรม Outlook ให้เป็น Offline Mode



Offline Mode มีประโยชน์อย่างไร?

การใช้งาน Offline Mode ช่วยหยุดการ Synchronizing หรือ การ Send/receive ข้อความอีเมล์ของเรา กรณีที่ต้องการเช็คอีเมล์แบบไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือในตอนที่เราจะ Backup/Export อีเมล์ของเราก็ควรจะปรับเป็น Offline Mode ก่อนเพื่อลดความเสี่ยงของไฟล์เสียหายที่อาจเกิดขึ้นตอน Backup ทำให้การ Backup สมบูรณ์มากขึ้น

วิธีตั้งโปรแกรม Outlook ให้เป็น Offline Mode สามารถทำได้ดังนี้

สำหรับ MS Outlook 2013


วิธีการตั้งโหมด Offline ใน Outlook  

  1. ไปที่ Send/Receive
  2. คลิกที่ Work Offline เพื่อทำการปิด 
  3. หากต้องการเปิดให้คลิกที่ Work Offline อีกครั้ง

สำหรับ Outlook for Mac


ไปที่แถบเครืองมือ Tools
จากนั้นคลิกเลื่อนช่อง ONLINE ไปยัง OFFLINE
โปรแกรมก็สลับเป็น Offline Mode ทันที


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ผู้ให้บริการเช่า Email Server/Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี