แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา spam junk mail จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด
แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา spam junk mail จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

บอกลาปัญหา spam หรือ junk mail ใน mail server ด้วยท่าไม้ตาย



ระบบกรอง spam และ junk mail ใน mail server ที่มีประสิทธิภาพสูง


ฉันใช้ Mail Server อย่างดี แต่ทำไมมี Spam เพียบ ?

Mail Server ทั่วไปจะมีระบบกรอง Spam และ Junk Mail ที่เป็น Function พื้นฐาน, ซึ่งสามารถกรอง Spam ได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น, และผู้ที่ส่ง Spam Mail (Spamer) ก็คิดหาวิธีพัฒนาการส่งให้สามารถผ่านการกรองและไปโผล่ใน Inbox ของคุณอยู่เรื่อยๆ, ซึ่ง Mail Server ที่มีระบบกรอง Spam ทั่วไปนั้น ไม่สามารถกรอง หรือ รู้เท่าทันใน Spam ใหม่ๆได้เลย และ ส่งผลให้คุณได้รับ Spam, Junk และ อีเมล์โฆษณาจำนวนมาก



วิธีทำให้ Spam หรือ Junk mail ใน mail server นั้นน้อยลง


ระบบ SpamGuard ระบบกรอง Spam มาตรฐานยุโรป

SpamGuard เป็นระบบกรอง Spam คุณภาพสูง ที่ถูกพัฒนาโดยทีมพัฒนาของ บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด และ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Spam จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และ วิศวกรเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญในยุโรป, ซึ่งทำให้ Mail Server คุณได้รับ Spam และ Junk น้อยลงมาก และ แทบจะเป็นศูนย์ ด้วยระบบการเรียนรู้ spam mail อันชาญฉลาด (Self learning), ซึ่งใน ผู้ใช้งานในยุโรปนั้น ซีเรียส กับ Spam mail เป็นอย่างมาก, เพราะหากคุณได้รับ Spam mail เยอะๆ คุณก็คงเลิกใช้งาน mail server ของบริษัทที่ให้บริการในที่สุด, เรามาดูกันว่า Spam Guard นั้นทำงานอย่างไร

  1. จะมีการกรองทุกคำ (Word scaning) ในระดับ หัวข้อเมล์ (Subject) เนื้อหาเมล์ (Content) โดยจะวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้มากแค่ไหน หรือ มีคำใดคำหนึ่งที่ เข้าข่ายเป็น Spam
  2. เรียนรู้ Spam อย่างอัตโนมัติ, ระบบ Spam Guard ยังมีการเรียนรู้จากพฤติกรรม การเปิดอ่านอีเมล์ของคุณ, เช่น หากมีอีเมล์ฉบับใดฉบับหนึ่งส่งเข้ามาบ่อยๆ แล้วคุณไม่เคยเปิดอ่านเลย ระบบจะเข้าใจโดยอัตโนมัติว่า อีเมล์ฉบับนั้นเป็น Spam ในครั้งต่อไป เป็นต้น
  3. สามารถระบุในระบบได้ว่า Email ใดเป็น White list, หาก Email ของผู้ติดต่อคนใดมีความสำคัญมาก, คุณสามารถตั้งในระบบให้เป็น White list, ซึ่งเมื่ออีเมล์นี้ส่งเข้ามาในระบบมันก็จะปล่อยผ่านให้เข้ามาทันที
  4. ระบุในระบบได้ว่า Email ใดเป็น Black list, ระบบ Spamguard สามารถระบุได้ในระดับ Hostname เช่น @abc.com เป็น Blacklist , ไม่ว่าใครภายใต้ @abc.com จะถูก Block และตีกลับโดยทันที
  5. วิเคราะห์ความยาวของตัวอักษรในแต่ละประโยค, ระบบกรอง Spam ยังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ถึงความยาวของแต่ละประโยค, หากประโยคใดถูกเชื่อมโยงอย่างไม่เหมาะสม, ระบบก็จะตีเป็น Spam ได้
  6. วิเคราะห์ขนาดอีเมล์, Spam บางชนิดจะถูกส่งเป็นตัวอักษรที่ยาวมากๆ ติดๆ กัน เช่น โฆษณาเขียนอธิบายถึงสรรพคุณของยาหรือผลิตภันฑ์, ระบบกรอง Spam ยังสามารถตรวจจับในระดับนี้ได้
  7. กรองไวรัส ที่อาจจะถูกแนบไฟล์ส่งมา, ระบบกรอง Spam จะมีการกรอง File ทุกตัวที่ถูกแนบเข้ามา, และ หากไฟล์แนบไฟล์ใดสุ่มเสียงว่าจะเป็นไวรัส, จะถูก Block โดยทันที


จากผลการทดสอบระบบ Spam Guard กับ Email ประมาณ 7,000 Users ที่เป็นบริษัทในประเทศไทยที่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารผ่านอีเมล์ กับ 100 บริษัท, พบว่าระบบ Spam Guard สามารถทำให้บริษัทบางรายลด Spam ไปได้มากกว่า 99% และ บางบริษัทถึง 99.98%, ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีการกรอง Spam ที่ดีที่สุดระบบหนึ่งของโลก และ ในประเทศไทย


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Mail Server ที่มีระบบการกรอง Spam ที่ดีที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Email (อีเมล์) คือ อะไร รวมถึงข้อดีและข้อเสีย ของการใช้อีเมล์ และจะใช้อีเมล์ในธุรกิจได้อย่างไร

บทความเรียบเรียงโดย
www.maildee.com ผู้ให้บริการ Email Server Hosting อีเมล์ธุรกิจ อันดับ 1 ของประเทศ
ที่หลายๆ บริษัทชั้นนำไว้ใจ 
คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดต่อ >>

Good or bad, Email for business
ความหมายของอีเมล และ ข้อดีข้อเสียของการนำอีเมลธุรกิจมาใช้ในองค์กร





        อีเมล์ (อังกฤษ: e-mail, email) ย่อมาจาก จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: electronic mail) คือวิธีการหนึ่งของการแลกเปลี่ยนข้อความแบบดิจิทัล ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อให้มนุษย์ใช้เป็นหลัก ข้อความนั้นจะต้องประกอบด้วยเนื้อหา ที่อยู่ของผู้ส่ง และที่อยู่ของผู้รับ (ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่ง) เป็นอย่างน้อย บริการอีเมล์บนอินเทอร์เน็ตในทุกวันนี้เริ่มมีการจัดตั้งมาจากอาร์พาเน็ต (ARPANET) และมีการดัดแปลงโค้ดจนนำไปสู่มาตรฐานของการเข้ารหัสข้อความ RFC 733 อีเมล์ที่ส่งกันในยุคคริสต์ทศวรรษ 1970 นั้นมีความคล้ายคลึงกับอีเมลในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงจากอาร์พาเน็ตไปเป็นอินเทอร์เน็ตในคริสต์ทศวรรษ 1980 ทำให้เกิดรายละเอียดแบบสมัยใหม่ของการบริการ โดยส่งข้อมูลผ่านเกณฑ์วิธีถ่ายโอนไปรษณีย์อย่างง่าย (SMTP) ซึ่งได้เผยแพร่เป็นมาตรฐานอินเทอร์เน็ต 10 (RFC 821) เมื่อ พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) และเปลี่ยน RFC 733 ไปเป็นมาตรฐานอินเทอร์เน็ต 11 (RFC 822)
การแนบไฟล์มัลติมีเดียเริ่มมีการทำให้เป็นมาตรฐานใน พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) ด้วย RFC 2045 ไปจนถึง RFC 2049 และภายหลังก็เรียกกันว่าส่วนขยายสื่อประสมในระบบอินเทอร์เน็ตแบบอเนกประสงค์ (MIME)
ระบบอีเมล์ที่ดำเนินงานบนเครือข่าย มากกว่าที่จะจำกัดอยู่บนเครื่องที่ใช้ร่วมกันครื่องเดียว มีพื้นฐานอยู่บนแบบจำลองบันทึกและส่งต่อ (store-and-forward model) เครื่องให้บริการอีเมล์นั้นจะตอบรับ, ส่งต่อ หรือเก็บบันทึกข้อความขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยที่ผู้ใช้คนนั้นจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับระบบอีเมล์ภายในด้วยคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ บนเครือข่าย ในการรับส่งข้อความจากเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนด ส่วนการส่งอีเมล์โดยตรงจากอุปกรณ์สู่อุปกรณ์นั้นพบได้ยากกว่า
อีเมล์ในเมืองไทยเริ่มต้นมีการใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 โดยอีเมล์ฉบับแรกของไทยเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ส่งไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ในการทดสอบระบบ
                                                                                                                                   จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อดีข้อเสียของการใช้ Email




ข้อดีของการใช้ Email ธุรกิจ (ฺBusiness Email)
1. ใช้ระยะเวลาไม่นานมาก สำหรับ การส่งข้อมูลถึงผู้รับ
2. สามารถย้อนกลับมาดูข้อมูล ที่ได้รับจากผู้ส่ง ระบบอีเมล์จะทำการบันทึกข้อมูลไว้ เพื่อประโยชน์ในการหาข้อมูลย้อนหลัง
3. เราสามารถทราบได้ว่า Address ที่เราส่งไปนั้นมีผู้รับจริงหรือไม่ เพราะระบบอีเมล์จะมีการแจ้งเตือนกลับมา หลังจากที่อีเมล์ถูกส่งออกไป
4. การรับข้อมมูล ผู้รับสามารถ เปิดเช็คอีเมล์ได้หลายระบบ ทั้งด้านคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมกันในสมัยต่างๆ
5. ข้อมูลที่ส่ง สามารถส่งได้ทั้งภาพ, เสียง, ตัวอักษร หรือแม้กระทั้งวีดีโอ สามารถลองรับไฟล์หลายประเภทได้





ข้อเสียของ Email for business (อีเมลธุรกิจ)
1. บางครั้งในการส่ง e-mail นั้น อาจะเกิดข้อสงสัยไม่ชัดเจน เหมือนการสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ อาจจะไม่ชี้ชัดแม่นยำพอ 
2. การส่ง address ที่อยู่ e-mail อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ เนื่องจากการใช้อักษรเป็นตัวกำหนด หรือผู้รับมีการเปลี่ยนแปลง address ระบบ e-mailจึงไม่สามารถตอบโต้ทันที ถ้าหากมีการใช้ตัวอักษรผิด หรือaddress ที่ไม่มีผู้ใช้ หรือยกเลิกใช้แล้ว 
ถ้ามีการผิดพลาด ระบบจะใช้เวลาสักครู่หนึ่ง เพื่อส่งอีเมล์กลับมายังผู้ส่ง เพื่อเตือนข้อผิดพลาด เนื่อวจากบางทีผู้ส่งไม่ได้คิดว่า address การส่งจะมีปัญหา จึงเกิดความ ชะล่าใจในการตรวจสอบ
3. ไวรัส อีเมล์เป็นช่องทางหนึ่ง ของการแพร่กระจายไวรัส ไปยังผู้อื่น ดังนั้นผู้รับเมล์อาจจะต้องตรวจสอบอีเมล์นั้นให้แน่ชัดก่อน หรือติดต่อทีมดูแลด้านอีเมล์ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการสูญหายของข้อมูลของท่าน
4.การใช้สื่อ Electronic ทุกประเภท แม้กระทั้ง Social ต่างๆ ทุกประเภท ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งหมด เปรียบเสมือนดาบ 2 คม ดังนั้นเราจึงควรใช้สติในการเลือกใช้สื่ออย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของเรา และผลเสียหายที่อาจจะตามมาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

อีเมล์สำเร็จรูปสำหรับบริษัทและองค์กร (Ready to use email) คือ อะไร และต้องติดตั้งอุปกรณ์มั้ย





วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาระดับชาติของคนใช้ Email Hosting ส่งอีเมล์ Email เข้าฮอตเมล์(Hotmail) ไม่ได้

บทความโดย
MailDee.com , Email Hosting ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่มีลูกค้าชั้นนำของประเทศใช้งานเหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ใช้ งาน Email เป็นประจำพร้อมทีม Support ตลอด 24x7x365

อ่านต่อ >>

หรือ โดน hotmail block
ทำไม Email Hosting  หรือ Email @ ชื่อบริษัท ของคุณ
ไม่สามารถส่ง Email ไปยัง Hotmail ใช่หรือไม่ 

หลายๆท่านที่ใช้ Email Hosting แบบ Share หรือ ที่ถูกแถมมากับ Web Hosting โดยส่วนใหญ่จะมีราคาถูก มักจะพบกับปัญหาส่ง Email ไปยัง Hotmail ไม่ได้  ทั้งๆที่เรามั่นใจว่าเราพิมพ์ชื่อ Email ปลายทางถูกต้องแล้ว แต่ส่งยังไงผู้รับก็ยังรับไม่ได้

ในบทความนี้จะเขียนข้อมูลอย่างละเอียดว่าเหตุใด ทำไม Email Hosting ที่คุณใช้อยู่ ถึงไม่สามารถส่งไปหา Email ปลายทางที่เป็น Hotmail ได้

ผ่าน Email Hosting
ภาพการทำงานกระบวนการ ตั้งแต่คุณ ที่ใช้ Email Hosting (เช่น sale@yourcompany.com/.co.th)
และส่งไปยัง Email ปลายทาง ในที่นี้สมมุติว่า abc@hotmail.com

ขั้นตอนการทำงานในการส่ง Email ไปยัง Hotmail จะอธิบายได้ดังนี้

1. คุณ หรือ Sender ได้ทำการส่ง Email 1 ฉบับ ออกไปหา abc@hotmail.com ขั้นแรก Email ของผู้ส่ง หรือ Sender Email จะต้องมี Server ที่ใช้ส่งในที่นี้เรียกว่า Email Server หรือ Email Hosting ซึ่งคุณก็เป็นเพียงหนึ่งใน Email Hosting นี้ ซึ่งมี หมายเลข ip ประจำตัว

2.หลังจากที่คุณส่ง Email ออกไปโดยผ่าน Email Server / Email Hosting  ขั้นแรก จะมี Firewall (IP Blacklist Check) เช็ค ก่อนทันทีเลยว่า IP ของ Email Hosting ที่คุณใช้อยู่ติดอยู่ในบัญชีดำหรือ Blacklist หรือไม่ (ซึ่งหาก IP ของ Email Hosting คุณ ติด Blacklist ซึ่งสาเหตุโดยส่วนใหญ่ที่ติด เนื่องจาก มีผู้ใช้ Email ใน Server เดียว เคยส่ง Spam หรือ Email โฆษณาไปหาคนอื่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลทำให้ IP นั้นติด Blacklist โดยอัตโนมัติ) ถ้า IP ของคุณติดBlacklist  จะทำให้Email ฉบับนั้นถูกตีกลับ ตั้งแต่ด่านแรก

3.หาก IP ของคุณไม่ติด Black List Email ที่คุณส่งจะวิ่งไปยัง Firewall ของ Hotmail ซึ่ง Hotmail ก็จะตรวจสอบก่อนว่า Email ของคุณ นั้นเคยทำอะไรที่ไม่ดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือ Email คุณสะอาดไร้ที่ติ ไม่เคยทำอะไรให้ใครเดือดร้อน Firewall ตัวนี้ก็มีหน้าที่กรองว่าจะยอมให้ Email Server นี้เข้า Mail Server ของ Hotmail หรือไม่

4.เมื่อผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของ Hotmail แล้ว Email ของคุณก็จะถูกเก็บไว้ใน Email Server ของ Hotmail ทีนี้ Email Server ของ Hotmail จะทำการแยกแยะว่า Email ของคุณจะส่งถึงปลายทางใน Inbox หรือ จะให้เข้า Junk box ดี ซึ่งขึ้นอยู่นโยบายของ Hotmail ในช่วงเวลานั้นๆ

แต่โดยส่วนใหญ่หากคุณติดต่อ Email ปลายทางที่เป็น Hotmail การส่งครั้งแรก จะโดนโยนเข้า Junk box โดยปริยาย

บทความโดย
MailDee.com , Email Hosting ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่มีลูกค้าชั้นนำของประเทศใช้งานเหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ใช้ งาน Email เป็นประจำพร้อมทีม Support ตลอด 24x7x365

อ่านต่อ >>



แต่หากคุณเคยติดต่อกับ Email ปลายทางนั้น และ Email ของคุณก็อยู่เป็นรายชื่อ Contact (ผู้ติดต่อ) ของเกือบ 90% Email ของคุณจะเข้า Inbox

เมื่อผู้อ่านได้ลองอ่านแล้ว จะรู้สึกว่า ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงต้องอะไรมากมายทั้งๆที่คุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่อยากจะส่ง Email ไปยัง ปลายทางที่เป็น Hotmail เท่านั้นเอง

แต่ในทางกลับกัน ก็มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามส่ง Spam Mail หรือ Email โฆษณา ไปยัง Email ปลายทางที่เป็น Hotmail โดยเฉพาะผู้ใช้บริการ Email Hosting แบบ Share มักจะประสบปัญหาเหล่านี้ เพราะผู้ใช้บริการคนอื่นกลับดันส่ง Email โฆษณาจำนวนมาก ไปหา Hotmail หากผู้ให้บริการ Email Hosting ของคุณ บริหารจัดการได้ไม่ดี IP โดยส่วนมากจะติด Black List ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ติด แต่ในอนาคตมีก็มีโอกาสติด และก็จะทำให้คุณส่ง Email ไปหา Hotmail ไม่ได้ในที่สุด

ในความเป็นจริงแล้ว ขั้นตอนการรับ Email ของ Hotmail จะเป็นความลับ และไม่มีใครสามารถทราบได้ แต่นี่คือ ประสบการณ์จริงของผู้เขียนมากกว่า 10 ปี ในแวดวง Email Hosting จึงไม่แนะนำอย่างยิ่งให้คุณใช้ Share Email Hosting ในราคาไม่กี่ร้อย หรือพันต้นๆ 
หากบริษัทของคุณใช้ Email ในการติดต่อเป็นหลัก ต้องเลือกผู้ให้บริการ Email Hosting ที่มีการบริหารจัดการได้อย่างดี และต้องมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ในอนาคต เพราะหากคุณส่ง Email เข้า Hotmail ไม่ได้ Email ของคุณก็แทบไม่มีประโยชน์อะไร เพราะอย่างไรก็ตาม คนไทยก็ใช้ Email Hotmail จำนวนมาก และเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำอย่างไร เมื่ออีเมล์ (Email Server/Hosting IP) ติด blacklist(แบล็คลิส) และส่ง email ไม่ออก

บทความโดย
MailDee.com , Email Hosting ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่มีลูกค้าชั้นนำของประเทศใช้งานเหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ใช้ งาน Email เป็นประจำพร้อมทีม Support ตลอด 24x7x365

อ่านต่อ >>



บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
Web Hosting เว็บโฮสติ้ง คือ อะไร และ ทำงานอย่างไร
พื้นที่เว็บหรือ Disk Space ของ Web Hosting คือ อะไร ?
Name Server (NS) หรือ DNS ใน Domain name (โดเมนเนม) คือ อะไร และ ทำงานอย่างไร
วิธีทำเว็บไซต์ตัวเอง ให้โชว์เป็น Domain บนเว็บไซต์ และ ให้่คนอื่นดูได้

บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด