แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา mac os จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด
แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา mac os จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560

[Mac OS] วิธี Clear cache files บนเครื่อง Mac ด้วยตนเอง


วิธีเคลียร์แคชบนแมคบุ๊ค, แมคแอร์

1. เปิด Finder

เลือก Go to Folder

2. ไปยังโฟลเดอร์ Caches

พิมพ์ ~/Library/Caches
จากนั้นกด Go


3. ลบข้อมูลแคชในโฟลเดอร์ Caches
ใครที่กลัวพลาด ก่อนจะลบให้ Copy ไฟล์ใน Folder: Caches ไปไว้ที่ Folder อื่นก่อนได้

Select All ทุกไฟล์ในโฟลเดอร์ Caches และคลิกขวาเลือก Move to trash

4. ไปที่ Main Drive ของเครื่องแมค เพื่อลบแคชใน Library อีกครั้ง

Select All ทุกไฟล์ในโฟลเดอร์ Caches และคลิกขวาเลือก Move to trash

5. ยืนยันด้วยรหัสผ่านของเครื่องแมค

ใส่รหัสผ่านของเครื่อง Mac

6. ลบไฟล์แบบถาวรที่ Trash

คลิกขวาที่ Trash เลือก Empty Trash

7. ยืนยันการลบข้อมูลในถังขยะ
เลือก Empty Trash
 8. รอข้อมูลใน Trash ทั้งหมดถูกลบ

รอลบข้อมูลออกจาก Trash

9. Restart เครื่อง Mac เพื่อให้เครื่องทำการสร้างโฟลเดอร์แคชที่จำเป็นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

กด Restart

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
Email Hosting สำหรับองค์กร คุณภาพดี ปลอดภัยสูง

    วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

    [Thunderbird] ค้นหา Message-id ในอีเมลกัน

    ค้นหา Message ID ในโปรแกรม Mozilla Thunderbird


    1. เปิดโปรแกรม Mozilla Thunderbird และเปิดข้อความอีเมลที่ต้องการดู Message ID
    คลิกปุ่ม 'More', เลือก 'View Source'

    2. จะปรากฏ source ของข้อความฉบับนั้น ให้ค้นหาบรรทัดที่มีคำว่า 'Message-ID'

    Message-ID ดังภาพ

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    [Outlook.com] ค้นหา Message-id ในอีเมลกัน
    วิธีการดู Raw source ของอีเมลแต่ละฉบับบน Mail App [Mac OS]
    วิธี View Source เพื่อดู Header ของอีเมล
    Email Header บอกอะไรเราได้บ้าง

    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

    ผู้ให้บริการ Email hosting สำหรับองค์กร ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจกว่า 8 ปี

    [Outlook.com] ค้นหา Message-id ในอีเมลกัน

    Message ID ใน Hotmail.com, Outlook.com 


    1. เปิดเว็บไซต์ outlook.com จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีอีเมลของ hotmail, outlook, live


    เปิดข้อความที่ต้องการดู Message ID จากนั้นคลิกที่ไอคอนลูกศรดังภาพ

    2. จะพบเมนูย่อยให้เลือก View message source

    เลือก View message source

    3. ค้นหาคำว่า 'Message-ID' จะพบ ID ดังภาพ

    Message-ID จะปรากฏอยู่ใน Message source ดังภาพ

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    วิธีการดู Raw source ของอีเมลแต่ละฉบับบน Mail App [Mac OS]
    วิธี View Source เพื่อดู Header ของอีเมล
    Email Header บอกอะไรเราได้บ้าง

    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

    ผู้ให้บริการ Email hosting สำหรับองค์กร ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจกว่า 8 ปี

    วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

    Traceroute คืออะไร ใช้เพื่ออะไร

     Traceroute คืออะไร

    Traceroute เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบการเดินทางของ Server  ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อเช็คว่าเครือข่ายมีปัญหาหรือไม่ เนื่องจากการเดินทางของ Server  กว่าจะเดินทางมาถึงที่ปลายทางก็จะต้องผ่าน Gateway หลาย ๆ ตัว ดังนั้นคำสั่ง Traceroute จะเป็นคำตอบได้ว่า เพราะอะไรเวลาที่เราเปิดเว็บไซต์หนึ่งแล้วไม่ได้ ในขณะที่บ้านอื่นเปิดได้ เป็นเพราะ Gateway ตัวใดที่ทำงานผิดปกติ

    บทความที่เกี่ยวข้อง



    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

    ผู้ให้บริการอีเมลโฮสติ้งสำหรับองค์กร/บริษัท

    วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

    [Mac OS] วิธีการตั้งค่าให้ Mail App ลบข้อความอัตโนมัติ (POP)




    Corporate email accounts ส่วนใหญ่แล้วจะมีจุดอ่อนคือพื้นที่  Mailbox ที่ผู้ให้บริการ offer ให้นั้นมีความจำกัด หรืออาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานของ End-users บางราย โดยเฉพาะบัญชีอีเมลที่ผู้บริหารต้องใช้เก็บข้อมูลสำคัญ ๆ ไม่สามารถลบออกได้

    อย่างไรก็ตามการ Add account ลงบน Client ประเภทบัญชีแบบ POP3 สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ เพราะว่าข้อความที่เก็บไว้บนโปรแกรมอย่าง Mail App จะถูกบันทึกอัตโนมัติไว้บนเครื่องเลย ไม่ได้ Sync โดยตรงกับ Mail server ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะลบข้อความออกจาก Mail Server ได้

    การตั้งค่าให้โปรแกรม Client ลบข้อความออกจาก Server ตามจำนวนวันที่กำหนดสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยแต่ละ Client ก็จะกำหนดค่าได้ต่างกัน เช่น ตั้งเป็นจำนวนวันได้ หรือ ตั้งเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน รายปี เป็นต้น

    วิธีการตั้งค่าให้ Mail App ลบข้อความอัตโนมัติ (POP)


    1. เปิดโปรแกรม Mail App บนเครื่อง Mac ขึ้นมา

    เลือกเมนู Mail > Preferences...


    2. ตั้งค่าให้โปรแกรมทำหน้าที่ลบข้อความอีเมลออกจาก Server แบบอัตโนมัติ

    ไปที่เมนู Accounts
    1. ทำเครื่องหมายที่ Remove copy from server after retrieving a message:
    2. เลือกระยะเวลาตามต้องการ

    3. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการให้ Mail app ลบข้อมูลจาก Mail server

    เช่น กำหนดให้ลบข้อความทุก ๆ 1 เดือน

    4. ปิดหน้า POP-UP การตั้งค่า



    5. บันทึกการตั้งค่าใหม่

    กด Save เพื่อบันทึกการตั้งค่า

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    [TL GoCloud][Mac OS X] การตั้งค่าอีเมล์, Add Account... (POP)
    [Mac OS][Mail App] เครื่องมือต่างๆ ใน Mail เครื่อง Mac เบื้องต้น
    [Mac OS][Mail App] วิธีค้นหา Mail ในเครื่อง Mac
    [Mac OS][Mail App] วิธีส่งอีเมล์แบบมีไฟล์แนบใน Mac


    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด
    ผู้ให้บริการ อีเมลโฮสติ้ง ที่ดีที่สุด

    วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

    วิธีการติดตั้งโปรแกรม Mozilla Thunderbird ลงเครื่อง Mac

    How to install Mozilla Thunderbird on Mac OS

    1. เปิด Browser เพื่อเข้าเว็บไซต์ mozilla.org


    1. Copy URL: https://www.mozilla.org/en-US/thunderbird/ ไปใส่ที่ช่อง Address bar กด Enter
    2. คลิกที่ปุ่ม 'Free Download'
    3. รอโปรแกรมโหลดลงเครื่องจนเสร็จสิ้น

    2. เปิดไฟล์ .dmg

    เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้เปิดไฟล์ .dmg เพื่อติดตั้ง

    3. ติดตั้งโปรแกรม Mozilla Thunderbird

    ลากไอคอนรูปนกลงไปที่ Folder สีฟ้าด้านขวา จากนั้นโปรแกรมจะถูกติดตั้ง
    และสามารถเปิดขึ้นมาได้จาก Finder ที่เครื่อง Mac ของเรา


    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

    วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

    [Mac OS] วิธีการใส่ลายเซ็น HTML Code ลง App Mail

    สำหรับคนที่มีปัญหาไม่มีความรู้เรื่อง HTML Code เลย แต่อยากได้ลายเซ็นที่มีรูปภาพเป็นของตัวเอง ผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า เราสามารถสร้างลายเซ็น HTML ได้ ง่าย ๆ ผ่านหน้าเว็บเมล์ทั่วไป และเข้าไป View HTML Code ได้ และคัดลอก HTML Code นั้นไปติดตั้งในโปรแกรม App Mail ของเครื่อง Mac ได้ ซึ่งเมื่อ Create signature แล้ว ลายเซ็นก็จะเหมือนกับบนหน้าเว็บเมล์เลย

    ส่วนคนที่มีความรู้เรื่องภาษา HTML อยู่แล้ว เพียงเราสร้างไฟล์ .html ขึ้นมา จากนั้นก็คัดลอก HTML Code เก็บไว้ และเริ่มทำตามขั้นตอนตามภาพด้านล่างได้เลย

    วิธีคัดลอก HTML Code บนหน้าเว็บเมล์ คลิกที่นี่


    1. เข้าหน้าเว็บเมล์ เพื่อคัดลอก HTML Code

    เข้าหน้าเว็บเมล์ จากนั้น
    1. เลือกหัวข้อ Identities
    2. คลิกที่บัญชีอีเมล์
    3. สร้างลายเซ็นในช่อง Signature
    4. กดเลือก Source Code 
    2. หน้าต่างจะแสดง HTML Code ขึ้นมา

    กดเลือกทั้งหมด หรือกดปุ่ม Ctrl + A

    3. ให้ Copy HTML Code ทั้งหมด หรือจะไปวางไว้ที่ Notepad ก่อนก็ได้

    1. คลิกขวาที่เราเลือกทั้งหมด คลิกที่ Copy
    2. กดปุ่ม OK

    จากนั้นให้เราย่อหน้าต่างนี้ลงก่อน เพื่อไปสู่ขั้นตอนสร้างลายเซ็นบน Mail App

    วิธีการใส่ลายเซ็น HTML Code ลง App Mail

    1. เปิดโปรแกรม App Mail ของเครื่อง Mac

    คลิกที่เมนู Mail > Preferences

    2. สร้างลายเซ็นเปล่าขึ้นมา 1 Signature

    1. เลือกหัวข้อ Signature
    2. ให้เลือกอีเมล์ที่ต้องการสร้างลายเซ็น
    3. กดที่ไอคอน + ด้านล่าง เพื่อเพิ่มลายเซ็น จากนั้นตั้งชื่อของ Signature ตามต้องการ
    ปิดหน้าต่างเมื่อเสร็จสิ้น

    3. ปิดโปรแกรม App Mail

    ให้คลิกขวาที่ไอคอน เลือก Quit เพื่อปิดโปรแกรม

    4. เปิด Finder เข้าไปยัง Folder: Library

    คลิก Go จากนั้นเลื่อน เม้าไปที่ Home แล้วกด ปุ่ม Option ค้างไว้
    จากนั้นไอคอน Library จะปรากฏขึ้นมา ให้คลิกไปที่ Library

    5. เปิดโฟลเดอร์ Signature

    ไปยังโฟลเดอร์ใน Library > Mail >V2 > MailData > Signatures

    6. รายละเอียดของชื่อลายเซ็นใน App Mail จะปรากฏขึ้นมา นามสกุลไฟล์ .mailsignature

    ไฟล์นามสกุล .mailsignature นี้คือลายเซ็นที่เราสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 2

    7. เปิดไฟล์ .mailsignature

    คลิกขวา แล้วกด Open With
    จากนั้นเลือก Other...

    8. เลือกโปรแกรม TextEdit เพื่อเปิดไฟล์นามสกุล .mailsignature

    ให้เลือกโปรแกรม Textedit จากนั้นกด Open


    9. เมื่อเปิดแล้ว จะแสดง Code Signature

    จะแสดง Code แยกเป็น 2 วรรค


    10. ลบ Code วรรคที่ 2 ออกทั้งหมด

    ลบ Code วรรคที่ 2 ออกทั้งหมด


    11. แล้วนำ HTML Code ที่ Copy ไว้จากหน้าเว็บเมล์มาวางแทน

    ให้นำ HTML Code ที่ Copy ไว้
    ในหัวข้อที่ 3 มาวางทับแทน

    12. บันทึก และปิดโปรแกรม TextEdit

    File > Save
    TextEdit > Quit TextEdit


    13. กด Get info ที่ไฟล์ .mailsignature

    คลิกขวาที่ไฟล์ กด Get Info


    14. Locked File

    ทำเครื่องหมายที่ Locked


    15. กดปิดหน้าต่าง Get Info จากนั้นเปิด App Mail

    สร้างจดหมายใหม่


    16. ลายเซ็น HTML Code จะปรากฏขึ้นมา

     HTML Signature


    บทความที่เกี่ยวข้อง

    บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

    บริการเช่าอีเมล์โฮสติ้ง สำหรับองค์กร คุณภาพสูง

    วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

    [Mac OS] วิธีแก้ปัญหา Your connection is not private แบบถาวร บน Mac

    จะทำอย่างไร เมื่อเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานประจำ ขึ้นว่า your connection is not private เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวร


    คลิกที่ตำแหน่งที่ 1 ดังภาพ ไปที่ Connection
    จากนั้นเลือก Certificate Information


    จะมี pop up ขึ้นมา ให้ลากใบ Certificate ลงไปที่ desktop


    Double Click ตัวที่เราลากลงมา จะมีพวงกุญแจขึ้นมาดังภาพ


    มี pop up ขึ้นมา 2 หน้า
    1.เลือก URL ที่ติดปัญหา
    2.เลือก Always Trust
    3.ปิดหน้าต่าง

    ปิด Browser 


    เปิด Browser ขึ้นมาและลองเข้าใช้งานหน้าดังกล่าวอีกครั้ง จะพบว่าใช้งานได้ปกติ



    บทความที่เกี่ยวข้อง


    บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

    ผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้ง สำหรับองค์กร / รับดูแล Mail Server สำหรับบริษัทฯ