วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[MD OX] วิธีเปลี่ยนภาษา และ Time Zone ในหน้าเว็บเมล์

การใช้งานหน้าเว็บเมล์ โดยที่เราอาจจะมีความรู้ด้านภาษาน้อย หรือไม่มีเลย เป็นเรื่องที่ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เมื่อระบบอีเมล์ในปัจจุบันก็สามารถรองรับภาษาต่าง ๆ ได้เกือบทุกภาษาแล้ว เรามาดูวิธีการตั้งค่ากันเลย

เมื่อ login เข้ามาแล้ว ให้เลือกไปที่ icon "Configuration" ดังภาพ

ไปที่ Language and region จากนั้นเลือกภาษาที่เราต้องการ (ภาษาไทย)
Time Zone เลือกเวลาท้องถิ่น เช่น (GMT+7:00) AsiaBangkok (ประเทศไทย)
เมื่อตั้งค่าเสร็จให้กด Save

ระบบจะทำการเปลี่ยหัวข้อเมนูต่างๆ ภาษาไทย

[MD OX] วิธีเช็คอีเมล์ โดย Log in ผ่านหน้าเว็บ

ขั้นตอนการ Check email ผ่านหน้าเว็บเมล์ เช่น mail.yourcompany.com

เปิดเว็บเมล์ของเรา ไปที่ mail.yourcompany.com

พิมพ์ชื่ออีเมล์ลงในช่อง User Name และใส่รหัสผ่านที่ช่อง Password

เมื่อเข้ามาแล้วจะมีอีเมล์ต่างๆ ใน Inbox แสดงอยู่หน้าโฮม ให้คลิกไปที่ Icon รูปจดหมาย (E-mail) 


เราจะสามารถเช็คอีเมล์ผ่านหน้าเว็บเมล์ได้แล้ว
วิธีการเช็คเมล์ขาเข้าให้กดปุ่ม Refresh ดังภาพ
หรือหากต้องการออกจากระบบให้คลิกปุ่ม Logout

บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้ให้บริการ Email Hosting ที่ดีที่สุด โดยบริษัท อันดับ 1 ของประเทศไทย 
http://www.technologyland.co.th/email hosting ที่ดีที่สุด

[MD OX] วิธีการตั้งค่าอีเมล์ @ชื่อบริษัท บน iOS เช่น iPhone, iPad, iPod

ปัจจุบันการสื่อสารไร้ขีดจำกัดมากขึ้น จนอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่แห่งหน ตำบลใดก็ตาม เราสามารถเข้าถึงการสื่อสารได้ทุกที่ และทุกเวลา เช่นเดียวกับการเช็คอีเมล์ของเรา บน iOS ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, iPod (Apple) เราก็สามารถสื่อสารกันได้อย่างง่ายๆ แบบ Real Time เพื่อธุรกิจของเราจะได้ต่อเนื่อง และไม่ทำให้เราเสียผลประโยชน์หรือเสียโอกาสทางธุรกิจโดยไม่จำเป็น ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการตั้งค่าอีเมล์ @ชื่อบริษัท ให้เป็นขั้นตอนอย่างกระจ่าง ดังนี้


ไปที่ Settings

เลือก Mail, Contacts, Calendars

เลือก Add Account...

เลือก Other

เลือก Add Mail Account

พิมพ์รายละเอียดใส่ชื่อ อีเมล์ รหัสผ่าน และชื่อโดเมน (หรือรายละเอียดอื่นๆ)

กด Next

หน้าจอแสดงตัวอย่างการเพิ่มบัญชีผู้ใช้
ตั้งค่า Incoming Mail Server และ Outgoing Mail Server
Host Name: mail.privateemail.com หรือ mail.(ชื่อโดเมน)
User Name: ชื่อบัญชีอีเมลผู้ใช้
Password: รหัสผ่านของบัญชีอีเมล
เมื่อตั้งค่าเสร็จ กด Next เครื่องจะทำการ Verify บัญชีและรหัสผ่าน

กด Continue เพื่อยืนยัน Mail Server ที่จะใช้งาน

ตั้งค่าให้ Mail เป็นสถานะ ON จากนั้นกด Save

ไปที่ Mail จากหน้าหลัก จะเห็นได้ว่า บัญชีที่เราเพิ่มจะปรากฎขึ้นแล้ว
เลือกบัญชีอีเมลของเรา

เราจะสามารถรับ/ส่งข้อความจากบัญชีอีเมลนี้ได้แล้ว
ระบบ Email Hosting ที่รองรับมือถือทุกระบบ ที่ดีที่สุด

บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้ให้บริการ Email Hosting ที่ดีที่สุด โดยบริษัท อันดับ 1 ของประเทศไทย 
http://www.technologyland.co.th/email hosting ที่ดีที่สุด

[MD OX] วิธีการตั้งค่าอีเมล์ @ชื่อบริษัท บน Windows Phone

ไป Settings

เลือก email + accounts

เลือก add an account

เลือก advanced setup

พิมพ์ชื่ออีเมล์และรหัสผ่าน

กด Next

เลือก Internet email

พิมพ์รายละเอียด
Account Name: (บัญชีอีเมล)
Your Name: (ชื่อของเรา)
Incoming email server: mail.privateemail.com หรือ mail.(ชื่อโดเมน)
Account type: IMAP4

User Name: (ชื่อบัญชีอีเมล)
Password: (รหัสผ่านบัญชีอีเมล)
Outgoing (SMTP) email server: mail.privateemail.com หรือ mail.(ชื่อโดเมน)

กด Sign in

Account จะปรากฏขึ้นมาใน email + accounts

ไปที่ Inbox กด More-->settings

กดชื่อ account ที่เพิ่มเมื่อสักครู่นี้ให้อีเมล์ลิงค์ไปยัง inbox

เมื่อ Account ถูกลิงค์จะถูกย้ายมาอยู่ที่ this inbox

เสร็จสิ้น

ระบบ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย
โดย บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

[MD OX] วิธีการตั้งค่าอีเมล์ @ชื่อบริษัท บน MacBook


การใช้งานระบบ Email Server บนเครื่องคอมพิวเตอร์ MAC สามารถใช้งานได้โดยทำการติดตั้งอีเมล์บนเครื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ MAC วิธีการมีติดตั้งมีดังนี้


เปิด icon Mail 

เลือก Mail-->Preferences...

เมนู Accounts เลือก + เพื่อ Add account

พิมพ์รายละเอียดของเรา กด Continue

Incoming Mail Server
Account Type: IMAP
Description: คำบรรยาย, อธิบาย
Incoming Mail Server: mail.privateemail.com หรือ mail.(โดเมนเนม)
User Name: ใส่ชื่อบัญชีอีเมล์
Password: รหัสผ่านของบัญชีอีเมล
กด Continue

เลือก Use SSL กด Continue

Outgoing Mail Server: mail.privateemail.com หรือ mail.(โดเมนเนม)
ทำเครื่องหมายที่ Use Authentication
User Name: บัญชีอีเมล์ของเรา
Password: รหัสผ่านของบัญชีอีเมล
กด Continue

ตรวจสอบการตั้งค่าจากนั้นกด Continue

Account ใหม่จะปรากฎขึ้นมา


ไปที่ Preferences... อีกครั้ง

เข้าไปตั้งค่า Port ของอีเมล์ที่ Accounts-->Advanced ดังภาพ
IMAP Path Prefix: INBOX
Port: 995 Use SSL

ระบบ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย
โดย บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธีเลือกซื้อ Web Hosting (เว็บโฮสติ้ง) ที่ไหนดีที่สุด พร้อม บทวิเคราะห์อย่างละเอียด

บทวิเคราะห์ที่ละเอียดที่สุดสำหรับการเลือกซื้อ
เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting)

บทวิเคราะห์สำหรับการเลือกซื้อ เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) 


หลายๆคนที่มีเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บส่วนตัวหรือเว็บของหน่วยงานองค์กรบริษัทของตนเอง หากต้องการนำขึ้นเว็บสิ่งแรกที่ต้องมี คือ  เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) หรือ แปลตรงๆ ก็แปลว่าที่ฝากเว็บไซต์ ผู้เขียนในฐานะที่อยู่ในแวดวง Web Hosting มามากกว่า 10 ปี ขอให้ผู้ซื้อวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่ให้บริการ Web Hosting ก่อนที่จะทำการซื้อดังนี้



  1. Web Hosting ต้องไม่ล่มผู้ให้บริการ Web Hosting ต้องเป็นบริษัทที่มั่นคง



    ควรเลือกซื้อหรือเช่าเว็บโฮสติ้งจากบริษัทที่มีความมั่นคง


    เป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทที่มีความมั่นคงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น และเชื่อถือมากกว่าบริษัทเล็กๆ หรือ คนขาย Hosting ที่เป็นบุคคลธรรมดา แต่ในทางกลับกัน หากคุณเลือกซื้อ Web Hosting กับ บริษัทที่มีความมั่นคงหรือมีชื่อเสียง ราคานั้นก็จะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะบริษัทใหญ่ๆ ต้องมีค่าบริหารจัดการที่ทำให้ Hosting ที่คุณใช้มีความเป็นมาตรฐาน แต่ผู้เขียนแนะนำว่าเป็นสิ่งที่คุณควรจะต้องจ่าย ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะต้องประสบปัญหา เช่น โทรหาไปยังผู้ให้บริการ Hosting ไม่ได้เพราะปิดมือถือ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากมาย และ ทำให้คุณต้องย้าย Hosting ในที่สุด
  2. ผู้ให้บริการส่วนมากมักจะโฆษณาว่า 99.999% Uptime

    การล่มของเว็บโฮสติ้งนั้นมีผลต่อธุรกิจของคุณ
    ซึ่งแปลว่า ซึ่งค่าเฉลี่ยที่ผู้เขียนวิเคราะห์ลงไปอย่างละเอียดจะเป็นดังนี้
    99.999% uptime = 5 นาที downtime / ปี
    99.99% uptime = 53 นาที downtime / ปี
    99.9% uptime = 8 ชั่วโมง 45 minutes downtime / ปี
    99% uptime = 3.65 วัน downtime / ปี

    ซึ่งแปลว่าทั้งปีห้ามล่มเกิน 5 นาที ซึ่งผู้เขียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่เพียงทำการ Restart Server บางทีเผลอๆ ก็ใช้เวลาไปเกิน 5 นาทีแล้ว ซึ่งมันเกิดแน่นอนดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันก็ควรจะเป็นช่วงเย็นเท่านั้น ไม่ใช้ตอนกลางวัน
  3. Server ต้องอยู่ใน Data Center จริงๆ
    Datacenter เป็นห้องที่ความมั่นคงสูง เช่น

    Server ของคุณต้องตั้งอยู่ใน Data Center
    3.1 ต้องมีอุณหภูมิและความชื้นคงที่  เหมาะสมตามค่ามาตรฐานสากล

    3.2 ต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่เป็นมาตรฐาน

    3.3 ต้องมีวิศวกรคอยควบคุมตลอดเวลา
    ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเสถียร และความปลอดภัยของ Server ซึ่งคุณได้ใช้อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับราคาที่อาจจะสูงกว่าปกติด้วย
  4. ต้องมีความปลอดภัย

    SSL คือ ใบรับรองความปลอดภัยของข้อมูล


    ผู้ให้บริการไม่กี่รายนักในประเทศไทย ที่ได้มีการเก็บข้อมูลของลูกค้าด้วยการเข้ารหัส ที่ได้รับรับรอง SSL Certificate หรือ ใบรับรองความปลอดภัย ซึ่ง SSL Certificate เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ระหว่างคุณกับผู้ให้บริการ Web Hosting นั้นมีความปลอดภัยที่สุด

  5. Support เป็นหัวใจและสิ่งสำคัญที่สุด

    การให้บริการลูกค้าด้วยทีมวิศวกรที่มีความเป็นมืออาชีพ นั้นเป็นหัวใจที่สำคัญ


    5.1 Live Chat
    Live Chat เป็นรูปแบบการ Support ที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ที่มีมาตรฐานจะให้ลูกค้าได้ใช้บริการ ซึ่ง Live Chat ค่อนข้างสำคัญมาก จากมุมมองผู้เขียนเพราะบางทีต้องส่งข้อมูลซึ่งเป็น ตัวอักษรยึกยือ ซึ่งบางทีการโทรคุยกันอาจจะไม่สะดวก หรือทางอีเมล์ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้คำตอบ


    5.2 Remote Support

    เป็นการช่วยเหลือเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด
    การ Support ด้วยการควบคุมหน้าจอจากระยะไกล 


    Remote Support เป็นรูปแบบการให้บริการที่ดีที่สุด ที่มีผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่กี่รายในประเทศให้บริการ Support ในรูปแบบนี้ เนื่องจากต้องใช้ทั้งทรัพยากรทีมวิศวกร, เวลา, Software และอุปกรณ์ด้าน Hardware ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่สามารถให้บริการในรูปแบบนี้ได้เพราะมีราคาสูง
    ในมุมมองผู้เขียนมองว่าการ Remote Support เป็นการ  Service ที่ดีที่สุด เพราะว่า วิศวกรของบริษัทผู้ให้บริการนั้นสามารถมองเห็นปัญหาจากหน้าจอของคุณจริงๆ และสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ทันที

    5.3 Email หรือ Ticket Support 
    เป็นรูปแบบการให้บริการ Support พื้นฐานที่ทุกบริษัทที่ให้บริการด้าน Web Hosting ควรที่จะมี หากไม่มีข้อนี้ คุณควรเปลี่ยนเจ้าโดยทันที เพราะอาจจะทำให้คุณติดต่อผู้ให้บริการไม่ได้

    5.4 Call Support
    เป็นรูปแบบบริการพื้นฐาน เช่นเดียวกัน จากประสบการณ์​ของผู้เขียนที่ได้พูดคุยกับโปรแกรมเมอร์จำนวนมาก มักพบว่าบริษัทหรือหน่วยง่ายหลายๆที่ ไม่ได้ให้ลูกค้าคุยกับวิศวกร แต่กลับให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความรู้ในการแก้ไขปัญหามารับสายหรือรับเรื่องเอาไว้ ซึ่งทำให้ปัญหาของคุณถูกดองไว้ ซึ่งเสียเวลาและเกิดความไม่สะดวกกับทางคุณเช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง มาตรฐานสูงสุดสำหรับองค์กรและธุรกิจ