แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ email hosting ที่ไหนดี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ email hosting ที่ไหนดี แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

สุดยอดวิธีการเลื้อกซื้อ "อีเมลบริษัท" ที่ควรรู้ก่อนตั้ดสินใจซื้อ

หากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือ กลาง คุณควรเลือกซื้อ "อีเมลบริษัท" จากผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ เพื่อที่คุณจะได้นำเวลาที่เหลือไปใช้ทำอย่างอื่น เพราะหากคุณเลือกซื้อ "อีเมลบริษัท" จากผู้ให้บริการที่ไม่มีคุณภาพคุณอาจจะต้องเอาเวลาอันล้ำค่าที่ต้องใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ มานั่งแก้ไขปัญหาอีเมล โดยเราได้รวมสุดยอดวิธีในการเลือกซื้อไว้ดังนี้






มีสัญญาการให้บริการที่ชัดเจน

คุณกำลังซื้อบริการอีเมล คุณอาจจะไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย ดังนั้นการถามหาเอกสารสัญญาการให้บริการ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากไม่มีสัญญาการให้บริการก็ไม่ต่างจากที่คุณกำลังจะโอนเงินไปทิ้งน้ำเลย เพราะผู้ให้บริการอีเมลบริษัทเหล่านั้นจะยกเลิกการให้บริการเมื่อไหร่ก็ได้








เลือกบริษัทที่ Support รวดเร็ว

การซื้อบริการอีเมลบริษัท มาใช้งานจริงๆ คุณต้องมีความรู้เบื้องต้นในการตั้งค่าโปรแกรม Outlook ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักที่ใช้เช็คเมล รวมถึงการตั้งค่าบนโทรศัพท์มือถือ และ Tablet ด้วย ดังนั้นผู้ให้บริการ อีเมลบริษัท มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องแนะนำลูกค้าในการตั้งค่ารวมถึงปัญหาการใช้งานต่างๆอย่างรวดเร็ว และ ควรมีการ Support แบบ Remote ด้วย









ปัญหาเพียบ

หากผู้ที่เคยใช้งานอีเมลบริษัทมา จะพบว่าผู้ให้บริการแต่ละที่ ก็จะมีปัญหาในการใช้งานอีเมลที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ ส่งอีเมลไม่ออก, รับอีเมลไม่ได้, รับส่งล่าช้า, Junk mail เยอะ หรือ ผู้ให้บริการอยู่ดีๆ ก็ปิดมือถือหายไปเลย ดังนั้นคุณควรมั่นใจว่าผู้ให้บริการอีเมลบริษัท ต้องไม่มีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น และ ต้องพร้อมให้คำแนะนำอย่างรวดเร็วหากคุณพบปัญหาการใช้งาน









ของถูกและดีไม่มีอยู่จริง

หากคุณพึ่งกำลังเริ่มต้นธุรกิจการประหยัดเป็นเรื่องที่ไม่ผิด แต่สำหรับการเลือกซื้ออีเมลบริษัทแล้วคุณไม่สามารถหาของราคาถูกและมีคุณภาพที่ดีได้ ดังนั้นคุณควรเลือกซื้ออีเมลบริษัท จากผู้ให้บริการที่มีการตั้งราคาไว้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อปีเป็นต้น


บทความที่เกี่ยวข้อง



บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ อีเมลบริษัท อันดับ 1

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

5 เหตุผลสำคัญ ที่คุณควรแยก Email Hosting ออกจาก Web Hosting !


เหตุผลสำคัญที่คุณควรแยกการทำงานของ Web Hosting และ Email Hosting ให้ออกจากกัน



เนื่องจากผู้เขียนมีประสบการณ์เกี่ยวกับด้าน Email Hosting มานาน และ มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ใช้งาน Email Hosting จำนวนมาก ทำให้ทราบถึงข้อเท็จจริงของผู้ใช้งานจำนวนมากเกี่ยวปัญหาที่พบ เช่น ส่งอีเมล์ไปหาปลายทางบางที่ไม่ได้, รับเมล์ไม่ได้, ล่ม เป็นต้น

ซึ่งร้อยละ 90 ของผู้ที่มีปัญหาการใช้งาน จะใช้ Email ที่ถูกแถมมากับ Web Hosting ผู้เขียนอยากเขียนถึงเหตุผลที่คุณควร แยกการทำงาน ของ email hosting และ web hosting แยกออกจากกันดังนี้


  1. ผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่ได้เชี่ยวชาญด้าน Email Hosting เสมอ 

    ผู้เขียนพบว่า ผู้ให้บริการ Web Hosting ที่มีชื่อเสียง หรือ เป็นรายใหญ่ของประเทศ ก็ไม่ได้แปลว่าผู้ให้บริการนั้นจะ เชี่ยวชาญและเข้าใจในกระบวนการทำงานของ Email Hosting เสมอ เราพบผู้ใช้งานจำนวนมากพบปัญหาการใช้งาน Email ที่ถูกแถมมากับ Web Hosting เหล่านั้น


  2. Web Hosting การทำงานหลัก คือ Website ไม่ใช่ Email

    เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่า Web Hosting ถูกออกแบบมาให้สำหรับคนที่ทำเว็บโดยเฉพาะ, Email เป็นเพียง Function นึงที่ถูกติดมา ดังนั้น ประสิทธิภาพของตัว Email นั้น ย่อมเทียบไม่ได้กับ Email Hosting โดยเฉพาะ


  3. ระบบ Email มีความสำคัญมากกว่า Web Hosting ในหลายๆบริษัทฯ

    หลายๆ บริษัทฯ เข้าใจและยอมรับได้เมื่อเว็บไซต์ตนเองนั้นล่ม แต่ในทางกลับกันระบบ Email นั้นไม่มีโอกาสให้ล่มเลย เพราะมีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณควรแยกการทำงานให้ออกจากกัน


  4. ผู้ให้บริการ Email Hosting ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี

    เพราะการทำงานของ Email Hosting นั้นมีการ รับและส่ง ไปยังอีเมล์ปลายทางที่มีที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เช่น hotmail, gmail, yahoo หรือ email hosting อื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ

    เมื่อผู้ให้บริการ Email Hosting ได้รับแจ้งปัญหา เช่น ส่งไปหา email hosting ของ บริษัท xxx ที่มีที่ตั้งอยู่ใน Europe ไม่ได้, ผู้ให้บริการต้องมีการ Email เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อประสานงานกับทาง Admin เพื่อสอบถามปัญหา และ ประสานงาน case by case


  5. Email Hosting แทบจะเป็นศาสตร์อีกแขนง

    จากประสบการณ์ การให้บริการ Email Hosting มา ผู้เขียนหรือเพื่อนๆ ที่ทำงานด้าน Email Hosting ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การทำงานของระบบ Email Hosting นั้นซับซ้อนมาก หากต้องการสร้างระบบ Email Hosting ที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีอีกหลายๆระบบ อินติเกต เข้าหาระบบ Email Hosting ด้วย เช่น ระบบ กรอง Spam, ระบบบริหารจัดการคิวของอีเมล์, การบริหารจัดการ User จำนวนมหาศาล, ความรู้ด้าน Network ในระดับ Local และ ระหว่างประเทศ, การกรองไวรัสในตัวอีเมล์ เป็นต้น  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาและประสบการณ์ทำงานในด้าน Email Hosting หลายปี จึงจะสามารถสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพได้


ดังนั้น หากองค์กรของคุณมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานระบบ Email Hosting ที่มีประสิทธิภาพ มิใช่มีไว้เพื่อโก้ๆ คุณควรเลือกผู้ให้บริการ Email Hosting จากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และ แยกการทำงานของ Email ให้ออกจากตัว Web Hosting ไป


บทความที่เกี่ยวข้อง


บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการระบบ Email Hosting สำหรับธุรกิจ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Email Hosting ที่วางอยู่ที่ ประเทศสิงคโปร์ นั้นดีและเร็วกว่า ไทย อย่างไร

 
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่าง ประเทศไทย ไปยังสิงคโปร์

Email Hosting ที่วางอยู่ที่ ประเทศสิงคโปร์ นั้นดีและเร็วกว่า ไทย อย่างไร


ประเทศสิงคโปร์ ถือเป็น Data Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพราะมีการจัดระบบคุณภาพของไฟฟ้า ไฟสำรอง รวมถึงประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อข้อมูล สายใยแก้วนำแสงใต้น้ำจาก ทวีปอื่น ๆ มายัง Asia ที่ใหญ่ที่สุด มีการทดสอบคามเร็วโดย "ศูนย์วิจัยและพัฒนาด้าน Email Hosting จาก TL Lab" ในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลระยะไกล จากประเทศต้นทางคือ ประเทศไทย ไปยัง Mail hosting ที่สิงคโปร์ พบว่าความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลมีความเร็วเท่าๆ กับ Server ที่ตั้งอยู่ในไทย แต่ในทางกลับกัน Email Hosting ที่มีที่ตั้งในประเทศสิงคโปร์ กลับมีปริมาณหรือท่อ Traffic กับต่างประเทศที่ใหญ่ ทำให้หมดปัญหาเรื่อง ได้รับอีเมล์ล่าช้า หรือ อีเมล์ตกหล่น


เนื่องจากเราพบว่า Email Hosting หรือ Server ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก มักมีปัญหาในลักษณะโครงสร้างระหว่างประเทศ หรือ สายที่ทำการ Link จากประเทศไทยไปยัง International Traffic นั้นมีราคาแพง และ มีประสิทธิภาพที่ต่ำ ทำให้หลายๆครั้ง คนที่ใช้งานระบบ Email Hosting ในลักษณะองค์กร ไม่ได้รับอีเมล์ หรือ ล่าช้า เพราะ Traffic เต็ม

จากข้อมูลเชิงสถิติที่ "TL Lab" ได้ทำการศึกษา และ ทดสอบความรวดเร็วโดยลักษณะการ Ping เพื่อหาค่าอัตราความหน่วง เพื่อวัดผลว่า การตั้งใช้งาน Email Hosting จากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์นั้นจะเกิดความล่าช้าหรือไม่ จากการทดสอบของ "TL Lab" ได้ผลลัพธ์เรื่องความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากค่าอัตราความหน่วง (Ping) นั้นมีความเร็วและเกือบจะเท่ากับความเร็วของ Email Hosting ในประเทศไทย


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการระบบ Email Hosting ที่มีที่ตั้งใน Datacenter ในสิงคโปร์

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธีเลือกซื้อ Web Hosting (เว็บโฮสติ้ง) ที่ไหนดีที่สุด พร้อม บทวิเคราะห์อย่างละเอียด

บทวิเคราะห์ที่ละเอียดที่สุดสำหรับการเลือกซื้อ
เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting)

บทวิเคราะห์สำหรับการเลือกซื้อ เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) 


หลายๆคนที่มีเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บส่วนตัวหรือเว็บของหน่วยงานองค์กรบริษัทของตนเอง หากต้องการนำขึ้นเว็บสิ่งแรกที่ต้องมี คือ  เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) หรือ แปลตรงๆ ก็แปลว่าที่ฝากเว็บไซต์ ผู้เขียนในฐานะที่อยู่ในแวดวง Web Hosting มามากกว่า 10 ปี ขอให้ผู้ซื้อวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่ให้บริการ Web Hosting ก่อนที่จะทำการซื้อดังนี้



  1. Web Hosting ต้องไม่ล่มผู้ให้บริการ Web Hosting ต้องเป็นบริษัทที่มั่นคง



    ควรเลือกซื้อหรือเช่าเว็บโฮสติ้งจากบริษัทที่มีความมั่นคง


    เป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทที่มีความมั่นคงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น และเชื่อถือมากกว่าบริษัทเล็กๆ หรือ คนขาย Hosting ที่เป็นบุคคลธรรมดา แต่ในทางกลับกัน หากคุณเลือกซื้อ Web Hosting กับ บริษัทที่มีความมั่นคงหรือมีชื่อเสียง ราคานั้นก็จะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะบริษัทใหญ่ๆ ต้องมีค่าบริหารจัดการที่ทำให้ Hosting ที่คุณใช้มีความเป็นมาตรฐาน แต่ผู้เขียนแนะนำว่าเป็นสิ่งที่คุณควรจะต้องจ่าย ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะต้องประสบปัญหา เช่น โทรหาไปยังผู้ให้บริการ Hosting ไม่ได้เพราะปิดมือถือ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากมาย และ ทำให้คุณต้องย้าย Hosting ในที่สุด
  2. ผู้ให้บริการส่วนมากมักจะโฆษณาว่า 99.999% Uptime

    การล่มของเว็บโฮสติ้งนั้นมีผลต่อธุรกิจของคุณ
    ซึ่งแปลว่า ซึ่งค่าเฉลี่ยที่ผู้เขียนวิเคราะห์ลงไปอย่างละเอียดจะเป็นดังนี้
    99.999% uptime = 5 นาที downtime / ปี
    99.99% uptime = 53 นาที downtime / ปี
    99.9% uptime = 8 ชั่วโมง 45 minutes downtime / ปี
    99% uptime = 3.65 วัน downtime / ปี

    ซึ่งแปลว่าทั้งปีห้ามล่มเกิน 5 นาที ซึ่งผู้เขียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่เพียงทำการ Restart Server บางทีเผลอๆ ก็ใช้เวลาไปเกิน 5 นาทีแล้ว ซึ่งมันเกิดแน่นอนดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันก็ควรจะเป็นช่วงเย็นเท่านั้น ไม่ใช้ตอนกลางวัน
  3. Server ต้องอยู่ใน Data Center จริงๆ
    Datacenter เป็นห้องที่ความมั่นคงสูง เช่น

    Server ของคุณต้องตั้งอยู่ใน Data Center
    3.1 ต้องมีอุณหภูมิและความชื้นคงที่  เหมาะสมตามค่ามาตรฐานสากล

    3.2 ต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่เป็นมาตรฐาน

    3.3 ต้องมีวิศวกรคอยควบคุมตลอดเวลา
    ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเสถียร และความปลอดภัยของ Server ซึ่งคุณได้ใช้อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับราคาที่อาจจะสูงกว่าปกติด้วย
  4. ต้องมีความปลอดภัย

    SSL คือ ใบรับรองความปลอดภัยของข้อมูล


    ผู้ให้บริการไม่กี่รายนักในประเทศไทย ที่ได้มีการเก็บข้อมูลของลูกค้าด้วยการเข้ารหัส ที่ได้รับรับรอง SSL Certificate หรือ ใบรับรองความปลอดภัย ซึ่ง SSL Certificate เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ระหว่างคุณกับผู้ให้บริการ Web Hosting นั้นมีความปลอดภัยที่สุด

  5. Support เป็นหัวใจและสิ่งสำคัญที่สุด

    การให้บริการลูกค้าด้วยทีมวิศวกรที่มีความเป็นมืออาชีพ นั้นเป็นหัวใจที่สำคัญ


    5.1 Live Chat
    Live Chat เป็นรูปแบบการ Support ที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ที่มีมาตรฐานจะให้ลูกค้าได้ใช้บริการ ซึ่ง Live Chat ค่อนข้างสำคัญมาก จากมุมมองผู้เขียนเพราะบางทีต้องส่งข้อมูลซึ่งเป็น ตัวอักษรยึกยือ ซึ่งบางทีการโทรคุยกันอาจจะไม่สะดวก หรือทางอีเมล์ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้คำตอบ


    5.2 Remote Support

    เป็นการช่วยเหลือเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด
    การ Support ด้วยการควบคุมหน้าจอจากระยะไกล 


    Remote Support เป็นรูปแบบการให้บริการที่ดีที่สุด ที่มีผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่กี่รายในประเทศให้บริการ Support ในรูปแบบนี้ เนื่องจากต้องใช้ทั้งทรัพยากรทีมวิศวกร, เวลา, Software และอุปกรณ์ด้าน Hardware ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่สามารถให้บริการในรูปแบบนี้ได้เพราะมีราคาสูง
    ในมุมมองผู้เขียนมองว่าการ Remote Support เป็นการ  Service ที่ดีที่สุด เพราะว่า วิศวกรของบริษัทผู้ให้บริการนั้นสามารถมองเห็นปัญหาจากหน้าจอของคุณจริงๆ และสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ทันที

    5.3 Email หรือ Ticket Support 
    เป็นรูปแบบการให้บริการ Support พื้นฐานที่ทุกบริษัทที่ให้บริการด้าน Web Hosting ควรที่จะมี หากไม่มีข้อนี้ คุณควรเปลี่ยนเจ้าโดยทันที เพราะอาจจะทำให้คุณติดต่อผู้ให้บริการไม่ได้

    5.4 Call Support
    เป็นรูปแบบบริการพื้นฐาน เช่นเดียวกัน จากประสบการณ์​ของผู้เขียนที่ได้พูดคุยกับโปรแกรมเมอร์จำนวนมาก มักพบว่าบริษัทหรือหน่วยง่ายหลายๆที่ ไม่ได้ให้ลูกค้าคุยกับวิศวกร แต่กลับให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความรู้ในการแก้ไขปัญหามารับสายหรือรับเรื่องเอาไว้ ซึ่งทำให้ปัญหาของคุณถูกดองไว้ ซึ่งเสียเวลาและเกิดความไม่สะดวกกับทางคุณเช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง มาตรฐานสูงสุดสำหรับองค์กรและธุรกิจ

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทำไม บริษัทผู้ให้บริการ Email Hosting ถึงต้องมี SSL Certificate หรือ ความปลอดภัยสูงสุด

SSL Certificate คือ อะไร และ ทำให้คุณมีความปลอดภัยในการสื่อสารข้อมูลได้อย่างไร


ทำให้อีเมล์และข้อมูลมีความปลอดภัย
SSL สำคัญต่อ เว็บไซต์ และทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยได้มากขึ้นอย่างไร

     SSL Certificates หรือ SSL ซึ่งย่อมาจากคำว่า Secure Xocket Layer คือ การรับรองความปลอดภัยของข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหมายนี้ จะเป็นการรับรองความปลอดภัยและยืนยันว่าเจ้าของเว็บไซต์นี้มีตัวตนจริง สามารถไว้ใจการให้ข้อมูลผ่านอิเล็คทรอนิคส์ได้ เพราะทุกการสื่อสาร การติดต่อ เป็นการเข้าและถอดรหัสข้อมูลด้วยระบบ SSL โดยผ่านการเรียกโปรโูตคอล https://
     ดังนั้นจะทำให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่า ไม่ได้ตกอยู่ในการโดนหลอก หรือการขอข้อมูลเพื่อหวังผลประโยชน์ในทางที่ผิด เช่นการให้ข้อมูลส่วนตัว, รหัสผ่านต่างๆ หรือเลขบัตรเครติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ที่ทำการค้าขาย Ecommerce Online ที่มีการโต้ตอบแบบ Real Time โดยมีการสอบถามข้อมูลส่วนตัว หรือการตอบธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ

จะทำให้ข้อมูลที่คุณสื่อสารนั้นถูกเข้ารหัสและมีความปลอดภัยมาก
SSL ช่วยปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับของคุณ ในระหว่างที่คุณ สื่อสารข้อมูลที่เป็นความลับ
กับบริษัทปลายทางผ่านทางหน้าเว็บไซต์ และ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า
ในระหว่างทางจะไม่มีใคร เข้าถึงหรือทราบข้อมูลของคุณได้


     SSL เป็นเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่อนุมัติโดย CA(Certificate Authority) ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ให้บริการการออกใบรับรอง SSL อยู่หลายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและสามารถไว้ใจด้านความปลอดภัยได้แน่นอน เช่น VeriSign, Thawte, Comodo และGeotrust เป็นต้น ซึ่่งผู้ให้บริการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้ชำนาญด้านการถอดรหัสข้อมูล และการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลของท่าน จะไม่มีการถูกหลอก หรือโดนฉ้อโกงแต่อย่างใด

     สำหรับเว็บไซต์ที่ ใช้ความปลอดภัยระบบ SSL ผ่าน URL บน Browser ต่างๆ จะปรากฏ https:// และมีรูปกุญแจซึ่งจะแสดงถึงความปลอดภัย ในส่วนของ Address Bar แบรนด์ของเรา Technologyland ก็ได้รับการตรวจรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผ่านระบบ SSL เช่นกัน

การติดต่อกับบริษัทผู้ให้บริการ Email Hosting ผ่านหน้าเว็บ ทำไมถึงต้องมีความปลอดภัยสูง


ที่ได้รับการรองรับความปลอดภัยสูงสุดจากองค์กรชั้นนำของโลก
ตัวอย่างเว็บไซต์ของ บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยของข้อมูล
สูงสุดจาก Geotrust ประเทศสหรัฐอเมริกา แบบ 256 Bit ซึ่งเทียบเท่ากับความปลอดภัย
ระดับเดียวกับระบบธนาคารชั้นนำ



เพราะคุณอาจจะมีการส่ง Password มายังระบบ live chat ซึ่ง Password email นั้นถือเป็นความลับสูงมาก ดังนั้นหากเว็บที่มี SSL Certificate ย่อมทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า ข้อมูลที่ติดต่อผ่านหน้าเว็บจะ ไม่โดน Hack แน่นอน

การโต้ตอบทุก ๆ ขั้นตอน สามารถถูกโจรกรรมได้ตลอดเวลา หากการป้องกันความปลอดภัยไม่แข็งแรงพอ ซึ่งแน่นอนว่า การเข้าระบบของเรา แต่ละทุกตัวอักษรต้องถูกแปลงเป็นระบบแบบ 256 Bit ทำให้การเข้าถึงข้อมูลนั้นยาก และแทบจะไม่มีการเป็นไปได้เลยว่า ข้อมูลของท่านจะถูก Hack ยิ่งในช่วงระหว่าง ที่ท่านกำลังจะใส่ Username Password นั้น เป็นช่วงที่อันตรายมาก เพราะ Hacker ส่วนมาก จะคอยดักข้อมูลของท่านอยู่ตลอด ทำให้ความปลอดภัยของ SSL นั้นทำงานแบบเต็มกำลัง
และจะสังเกตได้ว่า องค์กรที่ได้รับ SSL Certifacate นั้น ล้วนแต่เป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ มีการทำธุรกรรมการเงินตลอดเวลา จึงทำให้ผู้ใช้บริการเชื่อมั่นและเชื่อถือได้ว่าระบบ SSL เป็นระบบรับรองความปลอดภัยของข้อมูลที่ดีที่สุด

ตัวอย่างบริษัทผู้ให้บริการ Email Hosting ที่ได้รับ SSL Certificate แบบ 256 Bit

- Link ไปยัง เว็บไซต์ บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด (ได้รับการรับรองความปลอดภัยแบบ 256 Bit จาก 
Geotrust) โดยสังเกตได้จาก Green Bar (ในส่วนชื่อเว็บไซต์)


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ