แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา mail server ที่ไหนดี จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด
แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามวันที่ของการค้นหา mail server ที่ไหนดี จัดเรียงตามความเกี่ยวข้อง แสดงโพสต์ทั้งหมด

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559

หมายเลข IP กับ Hostname หรือ Domain name ต่างกันอย่างไร และ มีประโยชน์อย่างไร



          IP คือ หมายเลขประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ของแต่ละเครื่อง ที่มีหน้าที่ระบุว่าตัวเลข IP นี้เป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ หรือ Server เครื่องนี้ โดย IP นั้นจะไม่ทางซ้ำกันได้เลย เพื่อที่เวลามีการรับ - ส่งข้อมูล จะได้ส่งข้อมูลเข้าไปยังเครื่องที่ถูกต้อง เช่น 123.45.67.890 ถ้าให้นึกภาพง่าย ๆ คือ เวลาส่งจดหมายเราก็ต้องรู้บ้านเลขที่ของผู้รับก่อน เพื่อที่บุรุษไปรษณีย์จะสามารถส่งจดหมายได้ถูกบ้าน



Hostname คือ ชื่อเรียกของ Hosting ซึ่งแปลงมาจาก IP Hosting ให้เป็นชื่อที่เข้าใจง่ายแทนที่จะจดจำเป็นค่าตัวเลข และอาจมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการนั้นหรือเป็นที่เข้าใจกันในองค์กร ยกตัวอย่าง Email: aa@thailandemailserver.com เมื่อเราจะตั้งค่าบน Client อย่างเช่น Thunderbird, MS Outlook จะต้องมีการใส่ค่า Hostmame เพื่อให้ Program รู้ว่าเราจะ Connect อีเมลดังกล่าวกับ Server ที่ไหน เช่น mail.thailandemailserver.com ในเชิงเทคนิค Hostname: mail.thailandemailserver.com ก็จะถูกชี้ค่าไปยัง IP ของ Mail Server ที่ใช้งานอยู่

ใครที่ยังไม่เข้าใจก็ให้มองว่า Hostname นั้นเปรียบเสมือนชื่อเล่น หรือฉายาไปก่อน เราสามารถมีฉายาได้มากกว่า 1 ชื่อ แล้วแต่ว่าเราจะตั้งชื่อ Hostname เป็นอะไรบ้าง เช่น mail.thailandemailserver.com, pop.thailandemailserver.com, imap.thailandemailserver.com หรือ smtp.thailandemailserver.com เป็นต้น



Domain name คือ ชื่อที่อยู่หลังสัญลักษณ์ @ เช่น sanook.com, kapook.com, maildee.com เป็นต้น
ซึ่งเราสามารถลงทะเบียนเป็นเจ้าของชื่อต่าง ๆ ได้ โดยมีค่าบริการรายปี เสมือนการเช่าบ้าน ถ้าไม่ได้มีการต่ออายุ ผู้อื่นก็มีสิทธิ์ใช้ชื่อโดเมนของเราแทนได้

โดเมนเนมเป็นหัวใจสำคัญในการทำเว็บไซต์ และทำระบบอีเมล ถ้าไม่มีโดเมนเนมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดังนั้นผู้ที่ดูแลโดเมนเนมควรเป็นนิติบุคคลที่ไว้ใจได้ เพราะหากให้ใครคนใดคนหนึ่งจดทะเบียนโดเมนเนมให้ แล้วในอนาคตเราไม่สามารถติดต่อคน ๆ นั้นได้ พอโดเมนเนมหมดอายุเราก็มีสิทธิ์ที่จะ Lost ชื่อโดเมนของเราอย่างง่ายดาย

ชื่อโดเมนเนมที่ตั้งก็ควรจะเป็นชื่อที่ง่ายต่อการจดจำ เพื่อให้คนอื่นเข้าถึงง่าย ทำการตลาดได้ง่าย ๆ
มีความหมายในเชิงบวก


บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีทำเว็บไซต์ตัวเอง ให้โชว์เป็น Domain บนเว็บไซต์ และให้่คนอื่นดูได้Name Server (NS) หรือ DNS ใน Domain name (โดเมนเนม) คือ อะไร และ ทำงานอย่างไร

บริษัท เทคโนโลยี แลนด์ จำกัด

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการอีเมลโฮสติ้งที่ดีที่สุดของไทย

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การย้ายที่ตั้งบริษัท มีผลต่อการใช้งาน เช่า Email Server หรือไม่

หลายๆคนเกิดความกังวลใจเมื่อจะย้ายที่ตั้งบริษัท ว่าจะมีผลต่อการใช้งานระบบอีเมล์ที่เช่าไว้หรือไม่ และจะต้องทำอะไรบ้าง หากต้องย้ายที่ตั้งบริษัทจริงๆ


การย้ายที่ตั้งบริษัท มีผลต่อการใช้งาน เช่า Email Server หรือไม่?

การย้ายที่ตั้งบริษัทนั้นไม่มีผลต่อการใช้งานที่เช่า Email Server เนื่องจากการตั้งค่าต่างๆนั้น เป็นการตั้งค่าบน Server ไม่ได้ตั้งที่บริษัทของผู้เช่า ผู้เช่าสามารถใช้งานระบบอีเมล์ได้ตามปกติ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ใดก็ตาม


หากจะย้ายที่ตั้งบริษัท ผู้เช่าต้องแจ้งอะไรแก่ผู้ให้บริการ เช่า Email Server บ้าง?

อันที่จริงแล้ว การย้ายที่ตั้งบริษัทนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานระบบอีเมล์ แต่หากผู้เช่าจะทำการย้ายที่ตั้งบริษัท สิ่งที่ควรแจ้งให้ผู้บริการทราบคือ ที่อยู่ใหม่ที่ผู้เช่าจะย้ายไป เพื่อที่ผู้ให้บริการจะได้ทำการอัพเดตข้อมูลของผู้เช่า จะได้ไม่เกิดความยุ่งยาก เมื่อมีการชำระค่าบริการ และต้องมีการจัดส่งหลักฐานหรือเอกสารสำคัญให้แก่ผู้เช่า แต่หากผู้เช่าต้องการให้ผู้บริการจัดส่งเอกสารไปยังที่อยู่เดิม ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใหม่



บทความที่เกี่ยวข้อง

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การใช้อีเมล์เป็นประจำ ใช้งานเยอะ ๆ หนัก ๆ ควรเช่า Mail server หรือไม่



เมื่อเรามีธุรกิจ หรือมีองค์กรเป็นของตนเอง แน่นอนว่าการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล์ต้องเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในธุรกิจ และถ้าเกิดว่าเรายังใช้ Free email ในการติดต่อกับคู่ค้าอยู่ นั่นอาจหมายถึงเรากำลังทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรเราไป ผู้ติดต่ออาจมองว่าเราไม่ลงทุน หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ว่าเราเป็นบริษัทที่มีตัวตนอยู่จริง หรืออาจจะกำลังหลอกขายสินค้าอยู่หรือเปล่า

ธุรกิจโดยส่วนใหญ่มักจะมีการใช้งานอีเมล์ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ ๆ เช่น บริษัทขนส่ง ส่งออก ทำธุรกิจ Logistic ที่ต้องใช้งานอีเมล์อยู่ตลอดเวลา


การใช้ Free Email (แบบไม่เช่า Mail Server)

การใช้ Free Email ที่ผู้ให้บริการชื่อดัง เปิดโอกาสให้สมัครกันฟรี ๆ และได้พื้นที่ Mailbox ไปใช้กันเต็มอิ่ม และแถม Features ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากนั้น มีข้อดีคือ ฟรี! คำเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ทว่าในแง่มุมของการนำไปใช้กับธุรกิจนั้น ของฟรี อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป สิ่งที่อาจจะสร้างความไม่สะดวกมาก ๆ เมื่อใช้ฟรีอีเมล์คือ เราจะไม่สามารถตรวจสอบ Log การส่งออกรับเข้าของอีเมล์ได้เลย ว่าอีเมล์ใดบ้างที่ส่งเข้ามาหาเราในวันนี้ เมื่อวานนี้ รวมถึงหากมีปัญหาส่งข้อความไปแล้ว ข้อความไม่ไปเข้า Mailbox ของผู้รับ เราก็ไม่มีทางรู้ได้อีกว่า Mail server เรามีปัญหาอะไรหรือไม่ และเราก็อาจจะไม่มีที่ปรึกษาเรื่องระบบที่ใช้งานอยู่ ว่าการทำงานของระบบ Mail Server ที่ใช้นั้นเป็นอย่างไร ติดปัญหาอะไรไหม ดังนั้นการใช้ของฟรีอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับคนทำธุรกิจอีกต่อไป


การใช้ Business Email (แบบเช่า Mail Server)

ถึงแม้ว่าการลงทุนจ่ายราคาค่าบริการ Mail Server นั้น แพงกว่าการใช้ฟรีอีเมล์ก็ตาม แต่การเช่า Mail Server ก็มีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน สามารถอธิบายให้ผู้อ่านได้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

1. มั่นใจว่า Mail Server นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการรับส่งอีเมล์โดยเฉพาะ โดยที่ server จะไม่ถูกใช้รวมกับเว็บไซต์ ทำให้การใช้งานค่อนข้างเสถียรกว่า Mail Server ทั่ว ๆ ไปที่แถมมากับ Web Hosting
2. มีความปลอดภัยสูง ในส่วนนี้ผู้ให้บริการที่ดีจะเลือกใช้ Mail Server ที่มีมาตรฐาน เช่น SSL Certificate, มีระบบจัดการสแปมและแอนตี้ไวรัสที่ประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะลดความเสี่ยงเรื่องการถูกแฮคข้อมูล, Phishing email ได้เปราะหนึ่ง
3. มีเจ้าหน้าที่คอย Service หรือให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ข้อนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้งแต่ละเจ้าด้วยว่าเขามีเงื่อนไขการให้บริการอย่างไร ถ้าเจอผู้ให้บริการที่ไม่ดีก็อาจจะเป็นโชคร้ายของเราไป
4. ถ้ามีการใช้งานอีเมล์หนัก ๆ จริง ๆ ก็ต้องมีคนคอย Monitoring การใช้งานของ Users ในองค์กรเรา ซึ่งถ้าระบบจัดการภายในของ Mail Server ไม่ดี การควบคุมปัญหาหรือป้องกันปัญหานั้นก็ค่อนข้างยาก บางทีอาจจะเจอปัญหาพร้อม ๆ กันในช่วงเวลาเดียวกัน อาจจะทำให้ Users ที่ไม่มีผู้ให้บริการคอยดูแลโดยเฉพาะองค์กรที่มี Mail Server เอง ทำให้สติแตกก็เป็นได้ เพราะต้องคอยแก้ระบบ และคอยรับปัญหาจาก Users มาตรวจสอบและแก้ไขอีก
5. สามารถตรวจสอบภาพรวมของการใช้งานอีเมล์ของ Users ในองค์กรได้ ระบบบริหารจัดการอีเมล์ที่มีประสิทธิภาพดีนั้น จะต้องตรวจสอบ Log การรับส่ง, การเข้าใช้งานของแต่ละ Users ได้ และสามารถเข้าไปจัดการ Reset password ของ Users ได้ด้วยตัวของ Admin เอง

เหตุผลที่เราควรเช่า Mail Server ก็มีอยู่มากมาย แต่สรุปมาให้ผู้อ่านประมาณนี้
หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจข้อดีของการเช่า Mail Server ได้มากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เช่า Mail server มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ปัจจุบันหลายๆองค์กรให้ความสำคัญกับการใช้อีเมล์ ที่เป็นอีเมล์องค์กรมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าการเช่า mail server ดีกว่าการตั้ง mail server เองอย่างไร และมีข้อเสียอย่างไร เราจึงรวบรวมข้อดีข้อเสียมาดังนี้



ข้อดี
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่าตั้ง mail server เอง
- ไม่มีต้นทุนในการจ้างบุคลากร
- ไม่ต้องใช้ต้นทุน ในการจัดการระบบต่างๆที่ซับซ้อน เช่น ระบบ spam ระบบความปลอดภัย เป็นต้น
- ไม่ต้องดูแล server เอง
- มีผู้ให้บริการคอยดูแลความเรียบร้อย และแก้ไขให้เมื่อเกิดปัญหา
- มีทีมพัฒนาระบบ ให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


ข้อเสีย
- หากใช้พื้นที่เยอะ ค่าใช้จ่ายจะสูง
- การจัดสรรพื้นที่การใช้งาน ต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของผู้ให้บริการ

บทความที่เกี่ยวข้อง


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด 
ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1

เช่า mail server มีข้อเสียอย่างไร ?




คุณรู้หรือไม่ว่า การทำ E-mail Server เอง นอกจากจะต้องลงทุนด้าน Hardware ยังมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมาก เช่น ค่า Data Center ในการวาง Server , ค่าวิศวกรที่ต้องคอยดูแล, ค่า Software ดังนั้น เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะเลือกใช้วิธีเช่า E-mail Server จากบริษัทผู้ให้บริการ ทั้งนี้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียของการเช่า E-mail Server เราจะมาดูข้อเสียของการเช่า E-mail Server กัน

ข้อเสียของการเช่า E-mail Server มีดังนี้


1. ในการส่งอีเมล์ภายในบริษัทที่เดียวกัน จะไม่เร็วเท่า E-mail Server ที่อยู่ในวงแลนเดียวกัน  (เพราะเป็นการส่งอีเมล์เข้าระบบเซิฟเวอร์ของ Host ของ E-mail Server ก่อนถึงปลายทาง ต่างจาก E-mail Server ที่บริษัทเป็นผู้สร้างเซิฟเวอร์เอง เพราะเป็นการส่งในวงแลน)

2. กำหนดขนาดพื้นที่ของแต่ละ User ไม่ได้ เพราะแต่ละผู้ให้บริการจะกำหนดขนาดพื้นที่ให้อยู่แล้วตาม Package นั้นๆ หากต้องการพื้นที่มาก จะต้องเสียเงินซื้อพื้นที่เพิ่มเติม
     
     2.1 ข้อดีของการมีพื้นที่อีเมล์เยอะ คือ หาก user ใช้เมล์ outlook หรืออะไรก็ตามที่ต้องดาวน์โหลดอีเมล์ลงเครื่อง แต่ user ไม่ได้เปิดเครื่องเพื่อเช็คอีเมล์หลายวัน(อาจจะต้องออกต่างจังหวัดหรือลาหยุดหลายๆ วัน) ก็เท่ากับว่าอีเมล์ที่ส่งหา user นั้น จะค้างอยู่บน server ทั้งหมด หากพื้นที่เต็ม คนที่ส่งมาทีหลังอาจได้รับอีเมล์ตีกลับว่า mailbox เต็ม ต้องรอให้ว่างแล้วส่งใหม่ ซึ่ง user ก็จะไม่รู้ด้วยว่ามีคนส่งอีเมล์มาหา ซึ่งการเช่า host นั้น จะจำกัดพื้นที่ในการจัดเก็บพอสมควร

3. บริหารจัดการไม่สะดวก เมื่อมีปัญหาต้องติดต่อหาผู้ให้บริการ เพื่อแก้ไขปัญหา

4. การส่งไฟล์แนบ จะจำกัดขนาดไฟล์ในการส่งแต่ละครั้ง ต่างจากเซิฟเวอร์อีเมล์สร้างเอง ที่กำหนดการแนบไฟล์ได้ สามารถส่งไฟล์ใหญ่ๆ ได้ ถ้าในวงแลนไม่มีปัญหา แต่หากเข้าออก จากข้างนอก ก็ขึ้นอยู๋กับ speed download กับ upload ของ บริษัท

5. ไม่สามารถตกแต่งเว็บเมล์ได้  เวลาเข้าผ่านหน้าเว็บ จากอินเตอร์เน็ทภายนอก จะมีโลโก้ของผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนดไว้






บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด 
ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1

การเช่า Mail server ต่างจาก เช่า Web hosting อย่างไร

การเช่า Mail Server ส่วนใหญ่ของผู้ให้บริการ จะเป็นการเช่าทั้งระบบอีเมล์ ซึ่ง Server ที่ใช้งาน แน่นอนว่า Server นี้ถูกออกแบบมาเพื่อระบบอีเมล์โดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ไปใช้งานร่วมกับการทำงานอื่น ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประสิทธิภาพของการทำงานระบบอีเมล์



ความแตกต่างระหว่างเช่า Mail Server กับ Web Hosting?

แม้ว่า Web Hosting จะมีราคาค่าบริการที่ถูกกว่า Mail Server ทั่ว ๆ ไป แต่เราควรคำนึงถึงเรื่องการใช้งานด้วยว่า ภายใน Server หนึ่งเครื่องนั้น ประกอบไปด้วยโดเมนกี่โดเมน อาจจะเป็นหลักร้อย หลักพัน นั่นหมายรวมถึง Users ที่ใช้งานอีเมล์อีกหลักหมื่น 



ตัวอย่าง Server เครื่องหนึ่ง ประกอบด้วย 500 โดเมน โดเมนหนึ่งมี Users ที่ใช้งานอีเมล์อยู่ โดเมนละ 10 Users เท่ากับว่าใน Server เครื่องนั้นมีผู้ใช้งานอีเมล์อยู่ 500 x 10 = 5,000 Users (ประเมินแบบต่ำสุด)

นอกจากมี 5,000 Users แล้วเกือบทุกโดเมน ก็ย่อมมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ลองเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าถ้าคนหนึ่งคน มีหน้าที่ความรับผิดชอบหลายอย่างมากเกินตัว เขาจะไม่สามารถจัดการงานนั้น  ๆ ให้มีประสิทธิภาพได้เลย เช่นเดียวกับ Web Hosting ถ้ามีการใช้งานที่หนัก ก็อาจจะก่อให้เกิด Bandwidth exceeded, RAM เต็ม, อีเมล์ดีเลย์ ยังส่งผลให้เครื่องรวน และข้อความอีเมล์ที่พร้อมจะส่งออก หรือกำลังรับเข้ามาใน Server ก็ต้องหยุดชะงักไป



ผลเสียที่ร้ายแรงที่สุด คือ Server ล่ม ทำให้อีเมล์ทุกฉบับที่คิวกันอยู่ในระบบถูก Rejected ทั้งหมด ระบบอีเมล์ใช้งานไม่ได้ รวมถึงเว็บไซต์ก็ล่มด้วย




จะดีกว่าไหม ถ้าให้ Server ในหนึ่งเครื่องทำงานจำเพาะเจาะจงไป เช่น Mail Server ก็ให้มันทำงานเฉพาะเรื่องระบบอีเมล์ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องเว็บ ส่วน Web Hosting ก็ให้มันทำงานในส่วนของเว็บไซต์เท่านั้น มันก็จะส่งผลให้การใช้งานออกมามีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ชัดเจน


วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เช่า Mail server มีค่าบริการประมาณกี่บาท/เดือน

เป็นที่รู้กันว่า การเช่า mail server นั้น มีราคาสูงกว่าการเช่า web server หลายๆคนจึงเกิดความสงสัยว่า หากต้องการเช่า mail server นั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งการคิดค่าบริการของแต่ละเจ้านั้น ย่อมมีราคาที่แตกต่างกัน







ปัจจัยที่ทำให้ค่าบริการเช่า mail server มีราคาต่างกัน มีดังนี้

1. ขึ้นอยู่กับขนาดของ disk space และ จำนวน account ที่ต้องการใช้งาน
2. ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานต่างกัน
3. ระบบการจัดการ virus, spam ที่ต่างกัน
4. ความเสถียรของระบบการใช้งาน
5. ฟังก์ชั่นอื่นๆที่แตกต่างกันของแต่ละผู้ให้บริการ
6. การให้บริการหลังการขาย


โดยปกติแล้ว ผู้ให้บริการมักจะทำสัญญาการให้บริการและคิดค่าบริการเป็นรายปีเสียมากกว่า หากจะคิดราคาเป็นรายเดือน เฉลี่ยแล้วจะอยู่ในหลักร้อย ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากได้รับการบริการที่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกเช่า mail server ไม่จำเป็นว่าจะต้องจ่ายแพงเสมอไป เพียงเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้ก็เพียงพอ


บทความที่เกี่ยวข้อง


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด 
ผู้ให้บริการเช่าEmail Server อันดับ 1

SSL มีผลต่อความปลอดภัยในการเช่า Mail server อย่างไร

SSL (Secured Socket Layer) เป็นการรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมและแพร่หลายมากขึ้น



หากพูดถึงประโยชน์การใช้งาน SSL ว่ามีผลต่อความปลอดภัยในการเช่า Mail Server ด้วยไหม ต้องขอตอบเลยว่า มีแน่นอน

เมื่อเราใช้ Mail Server ของผู้ให้บริการ เราต้องตรวจสอบด้วยว่า นอกจากบริการที่เขามีดีอยู่แล้วนั้น มี Mail Server ให้เช่าที่มีคุณภาพหรือไม่ สังเกตจาก Mail Server ของผู้ให้บริการว่ามี SSL อยู่บน Server นั้น ๆ ไหม วิธีการสังเกตก็ดูไม่ยาก จะเป็น Green bar  หรือมีไอคอน รูปแม่กุญแจ อยู่ที่แถบ Address Bar เวลาที่เราเข้าหน้าเว็บเมล์ เพื่อให้แน่ใจว่า URL เราจะไม่ถูกเปลี่ยนเส้นทางการเข้าถึงหน้าเว็บเมล์จาก IP หนึ่งไปยังอีก IP หนึ่งโดย Hacker หรือผู้ไม่หวังดีนั่นเอง

นอกจากนั้น SSL ยังช่วยปกป้องอีเมล์เราไม่ให้โดน Phishing ได้อีกด้วย การฟีชชิ่งเป็นการสวมรอยหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่ากำลังเปิดหน้าเว็บไซต์ที่ถูกต้องอยู่ ซึ่งการที่ Hacker จะทำเว็บเมล์ หรือเว็บไซต์ที่มี SSL นั้นมีค่าใช้จ่ายพอสมควร เขาคงไม่ลงทุนขนาดนั้นแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด 
ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1

เช่า mail server ที่ไหนดี ถึงมีความปลอดภัย




หลายองค์กร เลือกที่จะใช้บริการ Email Server โดยเลือกเพียงพื้นที่อีเมล์ที่มีปริมาณมาก ราคาถูก แต่เจ้าของธุรกิจบางท่านกลับเห็นความสำคัญ ต่อการใช้ Email ที่มีความปลอดภัยในด้านข้อมูล เพราะหาก E-mail ที่ใช้งานอยู่ไม่มีความปลอดภัย อาจทำให้สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และ ความไว้ใจต่อผู้ร่วมธุรกิจของบริษัทได้ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจหลายๆท่าน จึงเลือกผู้ให้บริการ Email Server ที่มีคุณภาพ



เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Email Server ค่ายไหนมีความปลอดภัยสูงสุด





  1. ควรเลือกเช่า Email Server ที่มีระบบ SSL โดย SSL คือ ใบรับรองความปลอดภัยสูงสุดจาก GeoTrust, Inc. California U.S.A. โดยการเข้ารหัสแบบ 256 Bit เทียบเท่าระบบ Internet Banking ของธนาคารชั้นนำทั่วโลก ( สามารถอ่านอารายละเอียดการทำงาน SSL ได้ ที่นี่ )
  2. ควรเลือกเช่า Email Server ที่มีนโยบายการเข้าถึงข้อมูล ของลูกค้า โดยต้องการมีกำหนดการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าในส่วนของพนักงานและฝ่าย Support
  3. ควรเลือกเช่า Email Server จากบริษัทที่มีระบบเครือข่าย และ ข้อมูลที่ถูกจับตามองของวิศวกรอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการโดนเจาะข้อมูลจาก Hacker และโดนโจมตีจาก Bot
  4. ควรเลือกเช่า Email Server จากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ อาจดูได้จากลูกค้าที่ใช้บริการ Email Server ค่ายนั้นอยู่ และรางวัลจากสื่อที่น่าเชื่อถือที่มอบให้ค่าย Email Server นั้นๆ


ถ้าเช่า Mail Server จะ Backup ข้อมูลใน Email ได้อย่างไร ?



เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราจะต้องเปลี่ยนผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้ง ผู้ใช้งานเองคงมีปัญหา หรือกังวลเกี่ยวกับการย้ายข้อความอีเมล์ต่าง ๆ ที่อยู่บน Mail Server เดิม มายังอีก Mail Server หนึ่ง ซึ่งการย้ายข้อความอีเมล์เดิมนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรหากต้องทำการย้ายข้อความจาก Server หนึ่งมายังอีก Server หนึ่ง ซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ เช่น ไฟล์เสียหาย, ข้อความไม่ครบ, ยุ่งยากเรื่องการประสานงาน และหาก Mail Server ทำการเก็บข้อความ หรือใช้โค้ดที่ไม่เหมือนกับ Mail Server ตัวใหม่ที่จะย้ายไปก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลได้

ปัญหาดังกล่าวจะหมดไปทันที หากเราเปลี่ยนวิธีการ Backup หรือ Transfer ข้อมูล เมื่อผู้ใช้งานนั้นต้องใช้โปรแกรม Client software อย่าง Microsoft Outlook อยู่แล้ว เราเพียงแค่ใช้โปรแกรมนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการให้โปรแกรมดึงข้อความอีเมล์จาก Mail Server เดิม ก่อนที่จะย้ายมายัง Mail Server ใหม่ ซึ่งจะต้องเป็นการใช้งานแบบ Account type: POP3 เท่านั้น ใครที่เคยใช้เป็น Type: IMAP อยู่ ก็ให้ทำการ Add account Type: POP3 เข้าไปใหม่ จากนั้นรอโปรแกรมดึงข้อความลงมา

กรณีต้องการให้ข้อความไม่ทิ้งไว้บน Server เลย ก็ให้ตั้งค่าโดยไม่ต้องเลือก Leave a copy message on the server ข้อความทั้งหมดก็จะถูกดึงลงมาบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน

เพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องประสานงานกับผู้ให้บริการรายเดิม ช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้นด้วย และเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ซึ่งหลาย ๆ ที่ใช้กัน

ส่วนผู้ใช้งานที่ใช้งานผ่านโปรแกรมอื่น เช่น Mozilla Thunderbird, Windows Live Mail ก็จะมีวิธีการตั้งค่าที่คล้าย ๆ กัน และให้ผลลัพธ์เหมือน ๆ กัน คือ ดึงข้อความอีเมล์ลงมาเก็บบน Server ซึ่งถือเป็นการ Backup Emails ไปในตัว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1




วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เช่า Email Hosting ที่ไหนดี ที่สุด วิธีเลือกง่ายๆ เข้ามาดูกัน !

วิธีการเช่า Email Hosting บริษัทไหนดี



มีความซับซ้อนสูง

การทำ Email Hosting ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งผู้ให้บริการ เช่า Email Hosting มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านการให้บริการ Email Hosting ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาแก่ผู้ใช้งานอีกจำนวนมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อธุรกิจของผู้รับบริการอย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้



ปัญหา Junk Mail ในการเช่า Email Hosting



ปัญหาอีเมล์โฆษณา

หลายๆคนที่ใช้บริการ Free Email เช่น Hotmail, Gmail มาจะทราบว่า อีเมล์โฆษณา ที่หลุดเข้าไปถึง Inbox จริงๆนั้นน้อยมาก ซึ่งต่างจากการ เช่า Email Hosting หาก Server ไม่มีระบบประมวลผลอันชาญฉลาด คุณจะพบว่า User แต่ละคนจะได้รับ Email โฆษณา 5-10 ฉบับ ต่อวันต่อ Account ทำให้เครื่องของผู้ใช้งานมีแต่อีเมล์เด้งเตือนว่าได้รับ Email แต่อีเมล์เหล่านั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย




ปัญหาการส่ง Email ไม่ออก เพราะ Server ติด Blacklist


ส่งอีเมล์ไม่ออก

เนื่องจาก Email Hosting หนึ่งเครื่องประกอบไปด้วย User เป็นพันๆ Users ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ IP ของ Email Server นั้นจะติด Blacklist และทำให้ User ในเครื่องทั้งหมดส่ง Email ไปหาปลายทางไม่ค่อยได้




ปัญหา Email รับส่ง ล่าช้า 



ได้รับอีเมล์ล่าช้า

ปัญหาได้รับ Email ล่าช้าเป็นปัญหาใหญ่ หากใช้งาน Email ในการติดต่อสื่อสารด้านธุรกิจ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักเกิดกับ Server ที่มีผู้ใช้งานรวมกันจำนวนมากๆ เพราะจะทำให้แย่ง Bandwidth กัน หรือ บางครั้ง Traffic ก็เต็มไปเลย จนทำให้ อีเมล์เข้า และ ออกล่าช้า ตามกันไป




ปัญหา Email Hosting ล่ม หรือ Mail Server ล่ม


Email ล่ม

ปัญหา Email ล่มยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่ Users จำนวนมากต้องประสบ ซึ่งเมื่อระบบ Email ในบริษัทนั้นล่ม ย่อมส่งผลโดยตรงต่อพนักงาน และ การขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นผู้ให้บริการเช่า Email Hosting ที่ดี ต้องมีศักยภาพด้านความเสถียรภาพสูง หรือ ล่มน้อยที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง


บทความโดย

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด | ผู้ให้บริการ Email Hosting แก่ลูกค้าธุรกิจ

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ระบบป้องกันการ "ตกหล่น" ของ Email เมื่อ Email Server มีการ Maintenance



การเก็บ Email ที่ส่งเข้ามาในระหว่างที่ Mail Server นั้น Down


เพราะ Email ทุกฉบับของคุณนั้นมีความสำคัญ

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ให้ความสำคัญต่อ Email ของทุก User ทุกฉบับและทุกเวลา ถึงแม้ว่าการทำงานของ Mail Server  เรานั้นจะเป็น Cloud ทั้งหมด แต่ก็จะต้องมีการ Maintenance ในบางครั้ง ระหว่างที่ บริษัททำการ Maintenance ในบางเคสอาจจะต้องมีการ Down ในระดับ Hardware ซึ่งจะทำให้ Mail Server นั้นล่ม ซึ่งในระหว่างที่ Mail Server นั้นล่มนั้น เรามีระบบ Backup Storage เพื่อเก็บ Mail ทุกฉบับที่ส่งเข้ามาในระหว่างการ Down  โดยมีการทำงานตามภาพประกอบดังนี้





การทำงานเมื่อ Mail Server นั้น Down

การทำงานของ Backup Storage เมื่อ Mail Server Down

Mail ทั้งหมดที่เข้ามาในระหว่างที่ Mail Server นั้น Down  Mail ที่ถูกส่งมานั้นจะถูกไหลไปยัง ที่เก็บข้อมูลสำรอง (Backup Storage) 



การทำงานเมื่อ Mail Server นั้น  Maintenance เสร็จสิ้น


เมื่อ Mail Server นั้น UP หลังการ  Maintenance เสร็จสิ้น

Mail ทั้งหมดที่ถูกกักไว้ใน Backup Storage จะถูกดีดเข้าไปยัง Mail Server หลักโดยอัตโนมัติ และ Email ที่ส่งมาใหม่ทั้งหมดหลังจาก Mail Server นั้น UP จะถูกส่งไปยัง Mail Server ทันที โดยไม่ผ่าน Backup Storage จึงทำให้ Mail ทุกฉบับนั้นไม่มีการตกหล่นใดๆ เมื่อ Mail Server นั้น Down เมื่อมีการ Maintenance


บทความที่เกี่ยวข้อง



บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้นำระบบ Mail Server อันดับ 1


วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บริษัทดูแลระบบอีเมล์ วิธีเลือก และ บทวิเคราะห์ "ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน"

จะเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" ที่ไหนดี

เราอยู่ในยุคที่ "ทุกบริษัท ต้องมีอีเมล์" 

หากคุณทำงานในบริษัทใดๆ ก็ตาม, คุณจะพบว่าการสื่อสารในธุรกิจปัจจุบันนั้นใช้งาน "อีเมล์" ในการติดต่อเป็นหลัก แทนการติดต่ออื่นๆ เช่น โทรศัพท์ หรือ แทบจะมีลำดับความสำคัญอันดับต้นๆ ของบริษัทคุณเลยทีเดียว ดังนั้น การเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" นั้นมีความสำคัญมาก, เพราะหากคุณเลือกผิดคุณก็จะพบกับปัญหาการใช้งานมากมาย

จะเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" อย่างไร


วิธีเลือก บริษัทดูแลระบบอีเมล์ สำหรับ บริษัทของคุณ

  1. ต้องเลือกบริษัท ที่มีความน่าเชื่อถือ และ เปิดบริการมานาน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีความมั่นคง และ เมื่อคุณใช้งานไป บริษัทเหล่านี้คงไม่ปิดหนีหายคุณไปแน่ๆ

  2. มีการ Support หรือ การบริการหลังการขายที่ดี, เพราะระบบทุกระบบย่อมมีปัญหา, ปัญหาที่อาจจะเกิดจากตัวคุณไม่เข้าใจในเทคโนโลยี หรือ ปัญหาที่เกิดจากระบบของผู้ให้บริการเอง ดังนั้น เมื่อมีปัญหาคุณควรได้รับบริการที่ดี จากผู้ให้บริการ Mail Server อยู่เสมอ

  3. ผู้ให้บริการ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยต่อข้อมูลลูกค้า, ผู้ให้บริการ mail server ควรมีใบรับรองความปลอดภัยที่ถูกออกโดยหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข้อมูลของลูกค้านั้นมีความปลอดภัย

  4. Spam Mail คุณรู้หรือไม่ ว่ามีบริษัทจำนวนมากพบกับปัญหา Spam Mail อย่างมหาศาล เนื่องจาก เลือกผู้ให้บริการที่ผิดพลาด, เนื่องจากหากเป็นระบบ Mail Server ทั่วไป จะมีการกรองที่มีคุณภาพต่ำ, แต่หากเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานระบบการกรอง Spam หรือ Junk Mail จะแทบเป็นศูนย์

  5. IP ติด Blacklist, หากคุณเลือกผู้ให้บริการที่ไม่ได้ให้บริการ Mail Server โดยเฉพาะ, คุณต้องพบกับปัญหา อีเมล์บริษัทของคุณไม่สามารถส่งเข้าไปยัง Hotmail, Gmail, Yahoo หรือ ปลายทางบางที่ได้, และปัญหานี้จะเป็นไปเรื่อยๆ เพราะ Mail Server ของคุณติด Blacklist

ปัญหาเหล่านี้มิใช่ผู้ให้บริการไม่ทราบ, และ เค้าก็ไม่ผิดที่จะไม่บอกคุณ, เพราะถ้าบอกคุณก็คงไม่ซื้อบริการ Mail Server จากเค้า


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
"บริษัทดูแลระบบอีเมล์" มาตรฐานระดับสากลที่ดีที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Colocation Server กับ Dedicated email server ต่างกันอย่างไร ?

Colocation Server ต่างกับ Dedicated Server อย่างไร และ จะเลือกอันไหนดีกว่ากัน

Colocation Server ต่างกับ Dedicated Server อย่างไร ?

หลายๆคนสับสนว่าการซื้อบริการในรูปแบบ Colocation Server กับ Dedicated Server มีความแตกต่างกันอย่างไร, และ จะเลือกใช้บริการแบบไหนดี

ห้อง Data Center เพื่อวาง Colocation และ Dedicated Server


Colocation Server คือ การที่เรานำเครื่อง Server ที่เราซื้อหรือประกอบเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเครื่อง ซึ่งจะเป็นในรูปแบบ Tower (คล้ายๆ กับ Case PC ตามบ้าน) และ ในรูปแบบ Rack (เป็นเครื่อง แบนๆ แนวนอน) ไปฝากวางใน Internet Data Center 

การใช้งาน Colocation Server ผู้ให้บริการ Data Center
จะมีสายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, และระบบไฟพร้อมใช้งาน


Dedicated Server คือ การที่เราไปเช่าเครื่อง Server ที่ผู้ให้บริการนั้นประกอบแล้วจัด Spec ไว้เรียบร้อย และ วางใน Data Center เรียบร้อย, หรือพูดง่ายๆ คือ เครื่องพร้อมใช้งาน, โดยเราแค่มีหน้าที่ไปจ่ายค่าบริการรายเดือน เพื่อให้มีสิทธ์ในการเข้าไปบริหารจัดการตัว Server ที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้

Colocation Server เหมาะกับใคร

ลงไปใน Server
การใช้ Colocation Server สามารถปรับแต่ง Hardware ได้ตามต้องการ 


  • คนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Hardware, เพราะคุณจะสามารถจัดประกอบ Server ได้ตามต้องการ
  • คนที่มีความรู้ความเข้าใจในด้าน Server จริงๆ
  • มีเวลาที่จะเดินทางไป Data Center ได้ หากมี Hardware ตัวใดตัวหนึ่งพัง, เพราะ Data Center เค้าไม่ได้มีความรับผิดชอบในส่วนนี้
  • ควรมีเครื่อง Server สำรองไว้ด้วยอย่างน้อย 1 เครื่อง, เผื่อในกรณีที่ Hardware หลักๆ เสีย แล้วซ่อมไม่ได้ เช่น Mainbord จะได้มีเครื่องสำรองใช้ได้ทันที

Dedicated Server เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้าน Hardware ที่เกี่ยวข้องกับ Hardware ของ Server, ซึ่ง Hardware ของ Server จะถูกผลิตและมีความคงทนรวมถึงความเร็วมากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป
  • ผู้ที่ไม่ต้องการรับผิดชอบ Hardware, เพราะหากใช้บริการ Dedicates Server ผู้ให้บริการต้องเป็นผู้รับผิดชอบเปลี่ยน Hardware ให้
  • ไม่ต้องเตรียมเครื่อง Server สำรองให้หนักใจ เพราะผู้ให้บริการเค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้

จะใช้ Dedicated Server และ Colocation Server ใช้ทำอะไร ?

การวาง Server แบบแนวนอน (Rack) ไว้ในตู้ Rack หรือตู้ที่เก็บ Server


  • ใช้ทำ Email Server
    ผู้ที่ใช้งาน Colocation และ Dedicated Server, มักจะนำมาประยุกต์ในการใช้งาน เพื่อลงระบบอีเมล์ลงไปใน Server ทำให้เครื่องนั้นเป็น Email Server โดยทันที
  • ต้องการเก็บความลับของข้อมูลไว้สูงสุด
    องค์กรขนาดใหญ่มากๆ เช่น ธนาคาร มักจะใช้วิธีการนี้ในการทำ Mail Server ขององค์กรตัวเอง, เพราะ ไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ แม้ บริษัทผู้ให้บริการ Data Center เพราะเค้าไม่รู้ Password ของเครื่องคุณจริงๆ
  • เมกะโปรเจ็ก
    มีหลายองค์กรมักเข้าใจผิดว่า โปรแกรมที่เราใช้อยู่หรือเว็บของเราที่มีจำนวนคนเข้าเป็นพันๆ คน หรือ แม้แต่ระบบอีเมล์ ที่มีผู้ใช้งานในหลักร้อย, ต้องลงทุนทำ Colocation กับ Dedicated Email Server เอง, หากมันไม่ได้ใหญ่มากจริงๆ ไม่ควรใช้วิธีการเหล่านี้, เพราะทั้งใช้เงินจำนวนมาก แถมยังต้องมาดูแล Server เอง

ข้อเสียของการใช้งาน Colocation และ Dedicated Server

ไม่เหมาะกับองค์กรที่มีขนาดเล็ก-กลาง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Colocation กับ Dedicated Server นั้นคุณต้องมีความพร้อมในด้านบุคลากรเป็นอย่างมาก, และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในระดับ Hardware และ Server เชิงลึก, หากพูดกันจริงๆ ในประเทศไทยนั้นมีน้อย, เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้มีหลักสูตรนี้, รวมถึงบุคลากรด้านนี้จะมีค้าจ้างที่สูงกว่าพนักงานทั่วไปเป็นอย่างมาก, ดังนั้นคุณควรใช้ความรอบครอบในการตัดสินใจ, เพราะยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถใช้งาน แทน ที่จะต้องมานั่งเฝ้าดูแล Server เอง

บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Colocation mail server หรือ รับวาง Server คือ อะไร ?


Colocation EMail Server คือ อะไร และ เหมาะสมกับองค์กร หรือ บริษัทคุณมากแค่ไหน ? 

Colocation Server หรือ รับวาง Server คือ อะไร ?

Colocation Server หากเปรียบเสมือนคำพูดง่ายๆ คือ การที่คุณเอาเครื่อง Server  ทั้งเครื่องของคุณแบกไปฝากไว้ในห้อง Internet Data Center (IDC) ซึ่งมีบริษัทหลายบริษัทให้บริการรับฝากเครื่อง Server , ซึ่งเรียกว่า "บริการ Colocation Server" นั่นเอง, เพราะมันคงไม่คุ้มที่บริษัทหรือองค์กรของคุณต้องมานั่งสร้างห้อง  Data Center หลายล้านบาท เพื่อ วางเครื่อง Server เพียงเครื่องเดียวหรือไม่กี่เครื่อง, ซึ่งหากนำไปฝากไว้ที่ห้อง Internet Data Center (IDC) ซึ่งห้องดังกล่าว มีทั้งการควบคุมอุณภูมิ, สายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, มีความปลอดภัย, ระบบสำรองไฟ (UPS) เพียงคุณ แบก Server ไป, ผู้ให้บริการก็จะนำไปวางและต่อสายให้ทันที, โดยการคิดค่าใช้จ่ายมักคิดเป็น รายเดือน ตั้งแต่ 3,000 - 50,000 บาท/เดือน/1U ขึ่งอยู่กับความอลังการของ Data Center นั้นๆ

พื้นที่ขนาด 1 U, สำหรับการวาง Server 1 เครื่อง

หรือ ห้องดาต้าเซ็นเตอร์
องค์ประกอบของ Internet Data Center (IDC) สำหรับวาง Colocation Server 1 U


Colocation Server เอาไว้ทำอะไร ?

  • Mail Server องค์กรขนาดใหญ่มักทำ Mail Server ในรูปแบบ Colocation mail server
  • Data Backup  องค์กรขนาดใหญ่ หรือ แม้แต่องค์กรระดับโลก อาจจะมีความจำเป็นในการ Backup ข้อมูลไว้ยัง Server หลายๆที่ เพื่อลดความเสี่ยง, หาก Data Center ที่ใดที่หนึ่งมีปัญหา โดยเฉพาะ สายการบิน, ธนาคาร เป็นต้น
  • Project ขนาดใหญ่, การใช้งาน Colocation อาจจะถูกใช้งานโดยทีมโปรแกรมเมอร์ที่ต้องการ Run Project ขนาดใหญ่มากๆ เช่น ระบบเว็บไซต์ที่มีคนเข้ามหาศาล ( > 1,000,000 คน/วัน) , ระบบ ERP หรือ CRM โดยต้องการใช้ทรัพยากรของ Server เครื่องเดียวทั้งหมด อย่างเต็มที่ และ ไม่ต้องการไปแบ่งปันกับใคร

Colocation กับ EMail Server 

โดยส่วนมากแล้วผู้ที่ใช้บริการ Colocation หรือ เอา Server ทั้งเครื่องไปฝากที่ Data Center มักจะถูกนำมาทำเป็น "Email Server" โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ๆ ที่ไม่ต้องการนำอีเมล์ของตัวเองไปปนกับ Server คนอื่น, เพราะการวาง Colocation วิศวกรขององค์กร สามารถลง OS รวมถึง ระบบ Mail Server ที่ต้องการได้่ และ มีความเป็นความลับของข้อมูลสูงกว่า, เพราะแม้แต่บริษัทที่เป็นผู้ดูแล Data Center ก็ไม่สามารถ Access หรือ เข้าถึง Server ดังกล่าวได้ เพราะ ไม่รู้ Password รวมถึงรายละเอียดของ Software ใน Server

ข้อดีของการทำ Colo Mail Server เอง

  • เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่มากที่มีพนักงานต้องใช้งาน Email > 1,000 คน ขึ้นไป
  • คุณสามารถปรับแต่ง Software หรือ ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เพราะ Server เป็นของคุณ
  • คุณไม่ต้องมานั่งทำ Data Center เองด่้วยราคาหลายสิบล้านบาท
  • มีคนคอย Mornitor ระบบไฟฟ้า ระบบอินเตอร์เน็ตให้ (ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณ)

ข้อเสียของการทำ Colocation Email Server 

  • คุณต้องมี พนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ ด้าน Email Server อยู่ในองค์กรจริงๆ เพราะการให้บริการ Colocation นั้นเปรียบเสมือนการเช่าที่ดินวางเครื่อง แต่ที่เหลือทั้งหมดเป็นหน้าที่ของวิศวกรของบริษัทคุณที่ต้อง Remote เข้าไปทำ
  • ต้องมั่นใจว่าองค์กรของคุณเป็นองค์กรขนาดใหญ่จริงๆ ถึงทำ Colo Mail Server เอง
  • คุณต้องซื้อ ทั้ง Software: OS, Mail Server, Antivirus ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
  • คุณต้องมั่นใจว่าคุณเอาอยู่, ถึงแม้ว่า Datacenter ที่มีมาตรฐานจะไม่มีปัญหา ไฟดับ, ไฟไหม้, เน็ตหลุด "แต่ถ้า Server ติดไวรัส" คุณต้องเป็นผู้เข้าไปลง Software และ ลบมันเอง
  • คุณต้องมีเงินมากพอ เพราะคุณต้อง ซื้อ Server เอง, รวมถึงต้องไปจ่ายรายเดือนให้ Internet Data Center ด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง



บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Dedicated email hosting server คือ อะไร และ เลือกซื้อที่ไหนดี ?

Dedicated Email Server คือ อะไร ?


Dedicated email server ดีมั้ย และ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร


Dedicated Email Server หากพูดในภาษาที่เข้าใจง่าย คือ การที่คุณไปเหมา Server  ทั้งเครื่องใน Data Center มาอยู่ในการควบคุมของคุณเอง, ซึ่ง Dedicated Server นั้น จะเหมาะสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการทำเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่, หรือ องค์กรที่ต้องการใช้ Email Server เป็นของตนเอง และ ต้องการความเป็นส่วนตัว (คือไม่ไปยุ่งกับใคร) แต่ในองค์กรไม่มี Data Center,  จึงวาง Email Server ไว้ที่ Data Center กับบริษัทที่คุณฝากเอาไว้ โดยส่วนมาก Dedicated Email Server มักจะตั้งอยู่ใน Data Center ของ CAT, CS Loxinfo โดยมีบริษัทต่างๆ ไปเช่าพื้นที่ใน Data Center และนำมาแบ่งขายเป็นธุรกิจกันต่อไป


รูปแบบการซื้อหรือเช่า  Dedicated Email Server

  • ค่าซื้อเครื่อง Server ครั้งแรก

    จริงๆ แล้ว Dedicated Server คือ คุณต้องทำการซื้อเครื่อง Server ทั้งเครื่อง ตาม Spec ที่บริษัทผู้ให้บริการกำหนดไว้ เช่น CPU, RAM เท่าไหร่ ในครั้งแรก ซึ่งจะมีราคาตั้งแต่ Server ละ 30,000 - 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับ Spec ของ Server ที่ว่าคุณต้องการยี่ห้ออะไร หรือ แรงขนาดไหน

ขนาดของคอมพิวเตอร์ใช้งานทั่วไปหรือ PC กับขนาดของ Email Server ที่แตกต่างกันมาก

การวาง Email Server เข้าไปในตู้ Rack, โดย Server 1 เครื่องเท่ากับ 1 U


การวาง Email Server ไว้ใน Data Center เรียกว่า Dedicated email hosting server

  • ค่าบริการฝากวางใน Data Center ต่อ เดือน

    การคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มักจะคิดเป็น U, เนื่องจาก Server ไม่ได้มีขนาดเหมือนกับ PC ที่เครื่องใหญ่เป็นก้อน, แต่ Server จะมีลักษณะลาบและแบนซึ่งออกแบบมาให้ใส่ในตู้ Rack ได้เลย, ซึ่งค่าเช่าพื้นที่สำหรับวาง Server ของคุณ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะวางกี่ U ซึ่งก็หมายถึง  Server กี่เครื่องนั้นเอง โดยเมื่อวางเสร็จ จะมีสาย Lan และ ห้องควบคุมอุณหภูมิใน Data Center โดยจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 - 8,000 บาท/ เดือน


องค์กรหรือบริษัทของคุณ จำเป็นต้องมี Dedicated email hosting server หรือยัง ?

  • ฝ่าย IT จำนวนมากตัดสินใจพลาดที่จะทำ "Dedicated Email Server" เพราะคิดว่าบริษัทตนเองมีความมั่นคง หรือ พูดง่ายๆ รวยขนาดนี้ ต้องมี Server เองเลย ให้มันส่วนตัวสุดๆ หากเป็นเพราะแนวคิดนี้ขอให้เปลี่ยนทัศนะคติโดยทันที เพราะอะไร จะอธิบายด้านล่าง
  • ในความเป็นจริง "Dedicated Email Server" เหมาะสำหรับองค์กรที่มีขนาดใหญ่มาก เช่น สายการบิน, ธนาคาร, กระทรวง, องค์กรลับ เพราะองค์กรเหล่านี้มีความจำเป็น ที่จะต้องสามารถควบคุมสถาณการณ์ แม้แต่เรื่อง Email ด้วยตนเอง ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องการไปจ้างบริษัทไหนมาดูแล
  • หากองค์กรของคุณมีพนักงานไม่ถึง 1,000 - 10,000 คน การทำ "Dedicated Email Server" ยังถือว่าไม่มีความจำเป็นและอาจจะทำให้เกิดปัญหาอีกมากมาย

ข้อดีของการทำ "Dedicated Email Server"เอง 

  1. องค์กรของคุณ สามารถควบคุมและเข้าถึง Email Server นั้นได้ตลอดเวลา, เช่น Remote เข้าไป Restart เครื่อง Server, หากมันทำงานช้าๆ
  2. คุณสามารถลง Software ที่ต้องการได้ตราบที่คุณต้องการ เช่น การลงโปรแกรมการเข้ารหัสข้อมูลในอีเมล์ สำหรับ หน่วยงานที่ต้องการเก็บข้อมูลที่เป็นความลับมากๆ เช่น ธนาคาร เป็นต้น
  3. คุณไม่ต้องไปแบ่งทรัพยากรของ Email Server กับใคร, เพราะทั้ง Server เป็นของคุณ

ข้อเสียของการทำ "Dedicated Email Server"เอง 


การทำ Dedicated email server เองต้องมีพนักงานที่คอยดูอยู่ตลอดเวลา

ต้องเป็นเจ้าหน้าที่, ที่เชี่ยวชาญด้าน Email Server โดยเฉพาะ

  1. ต้องใช้เงินในการซื้อ Server  และ ค่าเช่าที่วางใน Data Center จำนวนมาก
  2. ต้องมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวขาญด้าน Email จริงๆ ประจำอยู่ในองค์กรของคุณ
  3. คุณต้องบริหารจัดการ ตั้งแต่ ลง OS ไปจนถึงลงโปรแกรมทั้งหมด ด้วยตนเอง
  4. หากคุณคิดว่า องค์กร คุณพร้อมที่จะจ่าย, แต่อย่าลืมเรื่องการ Maintenance ของ Email Server ซึ่งมีเรื่องที่จุกจิกมากมายที่เงิน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้



บทความโดย บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำไมการเช่าบริการ Email Server ถึงมีความปลอดภัยมากกว่า

บริษัท เค้าเกิดมาเพื่อสิ่งๆนี้ คือ ให้เช่า Email Server


เคยได้ยินมั้ยเวลาที่คุณไปซ่อมรถ แล้วไปเถียงช่างว่าทำไมไม่ทำแบบที่เราต้องการ แล้วโดนช่างตอบกลับมาว่านี่มันอาชีพของผม ผมรู้ มันก็เช่นเดียวกันหากคุณเช่าบริการจากผู้ให้บริการ Email Server บริษัทผู้ให้บริการ Email Server เค้าต้องมีความเชี่ยวชาญในการทำ Email Server มาเป็นอย่างดี ทั้งประสบการณ์ และความรู้ ซึ่งเราปฎิเสธไม่ได้เลยว่า บริษัทผู้ให้บริการ เค้าต้องมีความรู้ด้านนี้โดยตรงมากกว่าเรา

เค้าคงไม่เอาข้อมูลคุณไปขาย ถ้าบริษัทเค้าไม่อยากเจ๊ง

เจ้าของกิจการหลายๆ คนย่อมเป็นห่วงข้อมูลอันเป็นความลับ ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่แปลก เพราะข้อมูลของใครใครก็หวง จึงทำให้เจ้าของกิจการหลายคนทำ Email Server ไว้ในบริษัท หรือตึกของตัวเองเพราะคิดว่ามันปลอดภัยกว่า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เพราะคุณไม่สามารถควบคุมได้ว่าพนักงานของคุณจะแอบเอาข้อมูลไปเมื่อไหร่ ​หรือมี Hacker คนไหนมาเดินเล่นเพื่อเอาข้อมูลใน Email Server ของคุณ

แต่ในทางกลับกันแล้วถ้าไปเช่า Email Server บริษัทผู้ให้บริการ Email Server จะเอาข้อมูลเราไปทำอะไรหรือเปล่า เพราะการแข่งขันทางธุรกิจแต่ละประเภทสูงและมีผลประโยชน์จำนวนมาก ดังนั้นจึงกังวลว่าบริษัทผู้ให้บริการ Email Server อาจจะมีการแอบเอาข้อมูลของเราไปขายให้กับบริษัทคู่แข่ง

มันก็อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะในไร่ส้มย่อมมี ส้มที่หวานจำนวนมาก แต่ก็มีส้มบางลูกที่เปรี้ยว เช่นเดียวกัน แต่อย่าลืมว่าบริษัทผู้ให้บริการ Email Server ที่มีมาตรฐานหรือมีความมั่นคง คงไม่แลกกับเงินเพียงเล็กน้อยกับธุรกิจที่สร้างมาอย่างยาวนาน


Email Server เป็นระบบที่อ่อนไหวง่าย แต่คนใช้งานต้องการความเสถียร

ในฐานะที่ผมอยู่ในวงการ IT และทำงานในหลากหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับระบบ Server ผมยอมรับเลยว่าระบบ Email Server มีความอ่อนไหวง่าย คือมันมีความสัมพันธ์กับระบบ หลายๆส่วน ซี่งบางส่วนผู้ให้บริการก็ไม่สามารถควบคุมได้ ตั้งแต่ ระบบพื้นฐานของความเสถียร เช่น ระบบไฟ, อุปกรณ์ Hardware, ระบบความปลอดภัย, โปรแกรมป้องกันไวรัส, การบริหารจัดการ IP เพื่อไม่ให้ Server ของตัวติด Blacklist ซึ่งจะส่งผลให้ การรับส่งอีเมล์นั้นมีปัญหาไปหมด

ดังนั้น การเช่าบริการ Email Server จากบริษัทผู้ให้บริการโดยตรง ย่อมการันตีได้มากกว่าการที่คุณจะลองผิดลองถูก เพราะ ระบบ Email เป็นระบบที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจแทบจะ Realtime



ระบบ Email Server ในองค์กร ที่ดีที่สุดของประเทศไทย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ทำไมการทำ Email Server เองถึงมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

ทำไมคนถึงมีแนวคิดที่จะทำ Email Server ไว้ในองค์กร


เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมดูข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง รายงานว่าประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า ของอเมริกาติด Blackberry แล้วก็ iPhone ถ้าพูดกันจริงๆ คือ เค้าก็คือ คนธรรมดาคนนึงที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวหรือเพื่อนเหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยหน้าที่ตำแหน่งทำให้ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่และมันต้องลับสุดๆ ถึงขั้นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต้องเรียกผู้ผลิต Blackberry มาติดตั้ง Server ในทำเนียบขาวเป็นการส่วนตัวเลยทีเดียว

เหตุผลเหล่านี้และข้อมูลที่สื่อสารออกมาจากสื่อต่างๆ ในแวดวงอินเตอร์เน็ตซึ่งมักมีภาพใน เชิงลบ เช่น การหลอกลวง, Hacker,  ล้วนผลักดันให้ผู้บริหาร หรือนักธุรกิจ เข้าใจไปในทำนองเดียวกันว่า การตั้ง Email Server ไว้ในองค์กร นั้นปลอดภัยที่สุด โดยมีเหตุผลง่ายๆดังนี้
  1. วาง Server ในบริษัท ตัวเครื่อง Server เป็นของเรา แล้ว จะมีคนมาขโมยไปไม่ได้
  2. คนของเราดูแลเอง มันยิ่งปลอดภัยกันไปใหญ่
  3. คนของเราควบคุมเอง เวลามีปัญหาอะไร แก้ไขได้เอง​ โดยไม่ต้องไปตามง้อบริษัทให้มาแก้
  4. บริษัทเรา รายได้มหาศาล แค่จะสร้าง Datacenter ห้องนึง กับเครื่อง Server ไม่เป็นไรหรอกใช้เงินจิ๊บๆ

แล้วทำหรือตั้ง Mail Server เองปลอดภัยจริงหรือ ?

  1. ผมมั่นใจว่าเครื่อง Server ของคุณจะไม่มีใครบังอาจบุกรุกเข้ามาปล้นไปทั้งเครื่องได้แน่ๆ หรือ มองในด้านกายภาพ ใครมันจะบ้าเข้ามาปล้นเครื่อง Server 
  2. แต่คุณมั่นใจหรอว่าคนของคุณไม่เอาข้อมูลที่เป็นความลับ ไปใช้ในทางที่ผิด หรือแอบเอาไปขายให้บริษัทคู่แข่ง
  3. แต่ คุณมั่นใจหรอ ว่าทีม IT ของคุณจะสามารถควบคุม หรือแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ เพราะในมหาลัย ไม่มีหลักสูตร Email Server
  4. แต่คุณมั่นใจหรอว่า Datacenter ที่คุณสร้างจะไฟไม่ดับตลอดกาล

ถ้าไม่มั่นใจอย่าทำ Email Server ในองค์กร ใช้เองเด็ดขาด


เนื่องจาก Server มีการเสียบสาย Lan หรือสายอินเตอร์เน็ต คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามี Hacker คนไหนพยายาม Hack ข้อมูลคุณอยู่หรือเปล่า เพราะ มันเป็นลักษณะนามธรรม คือ คุณไม่มีทางรู้หรอกถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้

ถูกไวรัสโจมตีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ Email Server มันก็เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องนึงที่เราใช้ๆกัน คุณจะมีทางรู้มั้ยว่าไวรัสมันจะโจมตีเมื่อไหร่ แล้วถ้าถูกโจมตีจริงๆ ข้อมูลคุณอาจจะหายเลียบไปเลย

หากบริษัทคุณไม่ได้ใหญ่พอขนาดสามารถจ้าง โปรแกรมเมอร์ หรือวิศวกร มานั่ง Monitor ไอเจ้่า Email Server ตัวนี้ หรือถึงแม้ว่ามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Email Server จริงๆ มีค่อนข้างน้อย เพราะ ในมหาลัยเค้าลืมบรรจุหลักสูตรนี้เข้าไป ซึ่งเวลาเกิดปัญหาขึ้นคุณต้องให้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไข

หากบริษัทคุณมีรายได้มหาศาล ผมมั่นใจว่าคุณสามารถเจียดเงิน เล็กๆ น้อยๆ มาทำห้อง Data Center และซื้อเครื่อง Email Server เพราะ Software ที่ดีที่สุด แต่คุณไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิ, ความชื้น, การดับไฟ ได้เทียบเท่า Data Center  ที่เป็นมาตรฐานสากลอย่างแน่นอน

ข้อมูลเหล่านี้เป็นประสบการณ์ตรงของผม เมื่อผมได้พูดคุยกับเจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้บริหาร และผมมักจะนั่งอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้เค้าฟังอยู่เสมอ เมื่อเค้าได้คิดอย่างเป็นรูปธรรม เค้าจะรีบบอกทันทีเลยว่า "ไม่น่ามาเสียเวลาทำ Email Server เองเลย" แล้วข้อมูลที่ผ่านมาโดน Hack ไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นต้น
จึงอยากให้บทความนี้ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเพื่อใช้ในการไตร่ตรองอีกครั้ง

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server สำหรับคนไทย มาตรฐานโลก