แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา เช่า mail server จัดเรียงตามวันที่ แสดงโพสต์ทั้งหมด
แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา เช่า mail server จัดเรียงตามวันที่ แสดงโพสต์ทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำไมการทำ Email Server เองถึงมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

ทำไมคนถึงมีแนวคิดที่จะทำ Email Server ไว้ในองค์กร


เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมดูข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง รายงานว่าประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า ของอเมริกาติด Blackberry แล้วก็ iPhone ถ้าพูดกันจริงๆ คือ เค้าก็คือ คนธรรมดาคนนึงที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวหรือเพื่อนเหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยหน้าที่ตำแหน่งทำให้ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่และมันต้องลับสุดๆ ถึงขั้นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต้องเรียกผู้ผลิต Blackberry มาติดตั้ง Server ในทำเนียบขาวเป็นการส่วนตัวเลยทีเดียว

เหตุผลเหล่านี้และข้อมูลที่สื่อสารออกมาจากสื่อต่างๆ ในแวดวงอินเตอร์เน็ตซึ่งมักมีภาพใน เชิงลบ เช่น การหลอกลวง, Hacker,  ล้วนผลักดันให้ผู้บริหาร หรือนักธุรกิจ เข้าใจไปในทำนองเดียวกันว่า การตั้ง Email Server ไว้ในองค์กร นั้นปลอดภัยที่สุด โดยมีเหตุผลง่ายๆดังนี้
  1. วาง Server ในบริษัท ตัวเครื่อง Server เป็นของเรา แล้ว จะมีคนมาขโมยไปไม่ได้
  2. คนของเราดูแลเอง มันยิ่งปลอดภัยกันไปใหญ่
  3. คนของเราควบคุมเอง เวลามีปัญหาอะไร แก้ไขได้เอง​ โดยไม่ต้องไปตามง้อบริษัทให้มาแก้
  4. บริษัทเรา รายได้มหาศาล แค่จะสร้าง Datacenter ห้องนึง กับเครื่อง Server ไม่เป็นไรหรอกใช้เงินจิ๊บๆ

แล้วทำหรือตั้ง Mail Server เองปลอดภัยจริงหรือ ?

  1. ผมมั่นใจว่าเครื่อง Server ของคุณจะไม่มีใครบังอาจบุกรุกเข้ามาปล้นไปทั้งเครื่องได้แน่ๆ หรือ มองในด้านกายภาพ ใครมันจะบ้าเข้ามาปล้นเครื่อง Server 
  2. แต่คุณมั่นใจหรอว่าคนของคุณไม่เอาข้อมูลที่เป็นความลับ ไปใช้ในทางที่ผิด หรือแอบเอาไปขายให้บริษัทคู่แข่ง
  3. แต่ คุณมั่นใจหรอ ว่าทีม IT ของคุณจะสามารถควบคุม หรือแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ เพราะในมหาลัย ไม่มีหลักสูตร Email Server
  4. แต่คุณมั่นใจหรอว่า Datacenter ที่คุณสร้างจะไฟไม่ดับตลอดกาล

ถ้าไม่มั่นใจอย่าทำ Email Server ในองค์กร ใช้เองเด็ดขาด


เนื่องจาก Server มีการเสียบสาย Lan หรือสายอินเตอร์เน็ต คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามี Hacker คนไหนพยายาม Hack ข้อมูลคุณอยู่หรือเปล่า เพราะ มันเป็นลักษณะนามธรรม คือ คุณไม่มีทางรู้หรอกถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้

ถูกไวรัสโจมตีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ Email Server มันก็เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องนึงที่เราใช้ๆกัน คุณจะมีทางรู้มั้ยว่าไวรัสมันจะโจมตีเมื่อไหร่ แล้วถ้าถูกโจมตีจริงๆ ข้อมูลคุณอาจจะหายเลียบไปเลย

หากบริษัทคุณไม่ได้ใหญ่พอขนาดสามารถจ้าง โปรแกรมเมอร์ หรือวิศวกร มานั่ง Monitor ไอเจ้่า Email Server ตัวนี้ หรือถึงแม้ว่ามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Email Server จริงๆ มีค่อนข้างน้อย เพราะ ในมหาลัยเค้าลืมบรรจุหลักสูตรนี้เข้าไป ซึ่งเวลาเกิดปัญหาขึ้นคุณต้องให้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไข

หากบริษัทคุณมีรายได้มหาศาล ผมมั่นใจว่าคุณสามารถเจียดเงิน เล็กๆ น้อยๆ มาทำห้อง Data Center และซื้อเครื่อง Email Server เพราะ Software ที่ดีที่สุด แต่คุณไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิ, ความชื้น, การดับไฟ ได้เทียบเท่า Data Center  ที่เป็นมาตรฐานสากลอย่างแน่นอน

ข้อมูลเหล่านี้เป็นประสบการณ์ตรงของผม เมื่อผมได้พูดคุยกับเจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้บริหาร และผมมักจะนั่งอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้เค้าฟังอยู่เสมอ เมื่อเค้าได้คิดอย่างเป็นรูปธรรม เค้าจะรีบบอกทันทีเลยว่า "ไม่น่ามาเสียเวลาทำ Email Server เองเลย" แล้วข้อมูลที่ผ่านมาโดน Hack ไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นต้น
จึงอยากให้บทความนี้ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเพื่อใช้ในการไตร่ตรองอีกครั้ง

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server สำหรับคนไทย มาตรฐานโลก



วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Colocation Server กับ Dedicated email server ต่างกันอย่างไร ?

Colocation Server ต่างกับ Dedicated Server อย่างไร และ จะเลือกอันไหนดีกว่ากัน

Colocation Server ต่างกับ Dedicated Server อย่างไร ?

หลายๆคนสับสนว่าการซื้อบริการในรูปแบบ Colocation Server กับ Dedicated Server มีความแตกต่างกันอย่างไร, และ จะเลือกใช้บริการแบบไหนดี

ห้อง Data Center เพื่อวาง Colocation และ Dedicated Server


Colocation Server คือ การที่เรานำเครื่อง Server ที่เราซื้อหรือประกอบเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเครื่อง ซึ่งจะเป็นในรูปแบบ Tower (คล้ายๆ กับ Case PC ตามบ้าน) และ ในรูปแบบ Rack (เป็นเครื่อง แบนๆ แนวนอน) ไปฝากวางใน Internet Data Center 

การใช้งาน Colocation Server ผู้ให้บริการ Data Center
จะมีสายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, และระบบไฟพร้อมใช้งาน


Dedicated Server คือ การที่เราไปเช่าเครื่อง Server ที่ผู้ให้บริการนั้นประกอบแล้วจัด Spec ไว้เรียบร้อย และ วางใน Data Center เรียบร้อย, หรือพูดง่ายๆ คือ เครื่องพร้อมใช้งาน, โดยเราแค่มีหน้าที่ไปจ่ายค่าบริการรายเดือน เพื่อให้มีสิทธ์ในการเข้าไปบริหารจัดการตัว Server ที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้

Colocation Server เหมาะกับใคร

ลงไปใน Server
การใช้ Colocation Server สามารถปรับแต่ง Hardware ได้ตามต้องการ 


  • คนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Hardware, เพราะคุณจะสามารถจัดประกอบ Server ได้ตามต้องการ
  • คนที่มีความรู้ความเข้าใจในด้าน Server จริงๆ
  • มีเวลาที่จะเดินทางไป Data Center ได้ หากมี Hardware ตัวใดตัวหนึ่งพัง, เพราะ Data Center เค้าไม่ได้มีความรับผิดชอบในส่วนนี้
  • ควรมีเครื่อง Server สำรองไว้ด้วยอย่างน้อย 1 เครื่อง, เผื่อในกรณีที่ Hardware หลักๆ เสีย แล้วซ่อมไม่ได้ เช่น Mainbord จะได้มีเครื่องสำรองใช้ได้ทันที

Dedicated Server เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้าน Hardware ที่เกี่ยวข้องกับ Hardware ของ Server, ซึ่ง Hardware ของ Server จะถูกผลิตและมีความคงทนรวมถึงความเร็วมากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป
  • ผู้ที่ไม่ต้องการรับผิดชอบ Hardware, เพราะหากใช้บริการ Dedicates Server ผู้ให้บริการต้องเป็นผู้รับผิดชอบเปลี่ยน Hardware ให้
  • ไม่ต้องเตรียมเครื่อง Server สำรองให้หนักใจ เพราะผู้ให้บริการเค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้

จะใช้ Dedicated Server และ Colocation Server ใช้ทำอะไร ?

การวาง Server แบบแนวนอน (Rack) ไว้ในตู้ Rack หรือตู้ที่เก็บ Server


  • ใช้ทำ Email Server
    ผู้ที่ใช้งาน Colocation และ Dedicated Server, มักจะนำมาประยุกต์ในการใช้งาน เพื่อลงระบบอีเมล์ลงไปใน Server ทำให้เครื่องนั้นเป็น Email Server โดยทันที
  • ต้องการเก็บความลับของข้อมูลไว้สูงสุด
    องค์กรขนาดใหญ่มากๆ เช่น ธนาคาร มักจะใช้วิธีการนี้ในการทำ Mail Server ขององค์กรตัวเอง, เพราะ ไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ แม้ บริษัทผู้ให้บริการ Data Center เพราะเค้าไม่รู้ Password ของเครื่องคุณจริงๆ
  • เมกะโปรเจ็ก
    มีหลายองค์กรมักเข้าใจผิดว่า โปรแกรมที่เราใช้อยู่หรือเว็บของเราที่มีจำนวนคนเข้าเป็นพันๆ คน หรือ แม้แต่ระบบอีเมล์ ที่มีผู้ใช้งานในหลักร้อย, ต้องลงทุนทำ Colocation กับ Dedicated Email Server เอง, หากมันไม่ได้ใหญ่มากจริงๆ ไม่ควรใช้วิธีการเหล่านี้, เพราะทั้งใช้เงินจำนวนมาก แถมยังต้องมาดูแล Server เอง

ข้อเสียของการใช้งาน Colocation และ Dedicated Server

ไม่เหมาะกับองค์กรที่มีขนาดเล็ก-กลาง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Colocation กับ Dedicated Server นั้นคุณต้องมีความพร้อมในด้านบุคลากรเป็นอย่างมาก, และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในระดับ Hardware และ Server เชิงลึก, หากพูดกันจริงๆ ในประเทศไทยนั้นมีน้อย, เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้มีหลักสูตรนี้, รวมถึงบุคลากรด้านนี้จะมีค้าจ้างที่สูงกว่าพนักงานทั่วไปเป็นอย่างมาก, ดังนั้นคุณควรใช้ความรอบครอบในการตัดสินใจ, เพราะยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถใช้งาน แทน ที่จะต้องมานั่งเฝ้าดูแล Server เอง

บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Dedicated email hosting server คือ อะไร และ เลือกซื้อที่ไหนดี ?

Dedicated Email Server คือ อะไร ?


Dedicated email server ดีมั้ย และ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร


Dedicated Email Server หากพูดในภาษาที่เข้าใจง่าย คือ การที่คุณไปเหมา Server  ทั้งเครื่องใน Data Center มาอยู่ในการควบคุมของคุณเอง, ซึ่ง Dedicated Server นั้น จะเหมาะสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการทำเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่, หรือ องค์กรที่ต้องการใช้ Email Server เป็นของตนเอง และ ต้องการความเป็นส่วนตัว (คือไม่ไปยุ่งกับใคร) แต่ในองค์กรไม่มี Data Center,  จึงวาง Email Server ไว้ที่ Data Center กับบริษัทที่คุณฝากเอาไว้ โดยส่วนมาก Dedicated Email Server มักจะตั้งอยู่ใน Data Center ของ CAT, CS Loxinfo โดยมีบริษัทต่างๆ ไปเช่าพื้นที่ใน Data Center และนำมาแบ่งขายเป็นธุรกิจกันต่อไป


รูปแบบการซื้อหรือเช่า  Dedicated Email Server

  • ค่าซื้อเครื่อง Server ครั้งแรก

    จริงๆ แล้ว Dedicated Server คือ คุณต้องทำการซื้อเครื่อง Server ทั้งเครื่อง ตาม Spec ที่บริษัทผู้ให้บริการกำหนดไว้ เช่น CPU, RAM เท่าไหร่ ในครั้งแรก ซึ่งจะมีราคาตั้งแต่ Server ละ 30,000 - 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับ Spec ของ Server ที่ว่าคุณต้องการยี่ห้ออะไร หรือ แรงขนาดไหน

ขนาดของคอมพิวเตอร์ใช้งานทั่วไปหรือ PC กับขนาดของ Email Server ที่แตกต่างกันมาก

การวาง Email Server เข้าไปในตู้ Rack, โดย Server 1 เครื่องเท่ากับ 1 U


การวาง Email Server ไว้ใน Data Center เรียกว่า Dedicated email hosting server

  • ค่าบริการฝากวางใน Data Center ต่อ เดือน

    การคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มักจะคิดเป็น U, เนื่องจาก Server ไม่ได้มีขนาดเหมือนกับ PC ที่เครื่องใหญ่เป็นก้อน, แต่ Server จะมีลักษณะลาบและแบนซึ่งออกแบบมาให้ใส่ในตู้ Rack ได้เลย, ซึ่งค่าเช่าพื้นที่สำหรับวาง Server ของคุณ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะวางกี่ U ซึ่งก็หมายถึง  Server กี่เครื่องนั้นเอง โดยเมื่อวางเสร็จ จะมีสาย Lan และ ห้องควบคุมอุณหภูมิใน Data Center โดยจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 - 8,000 บาท/ เดือน


องค์กรหรือบริษัทของคุณ จำเป็นต้องมี Dedicated email hosting server หรือยัง ?

  • ฝ่าย IT จำนวนมากตัดสินใจพลาดที่จะทำ "Dedicated Email Server" เพราะคิดว่าบริษัทตนเองมีความมั่นคง หรือ พูดง่ายๆ รวยขนาดนี้ ต้องมี Server เองเลย ให้มันส่วนตัวสุดๆ หากเป็นเพราะแนวคิดนี้ขอให้เปลี่ยนทัศนะคติโดยทันที เพราะอะไร จะอธิบายด้านล่าง
  • ในความเป็นจริง "Dedicated Email Server" เหมาะสำหรับองค์กรที่มีขนาดใหญ่มาก เช่น สายการบิน, ธนาคาร, กระทรวง, องค์กรลับ เพราะองค์กรเหล่านี้มีความจำเป็น ที่จะต้องสามารถควบคุมสถาณการณ์ แม้แต่เรื่อง Email ด้วยตนเอง ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องการไปจ้างบริษัทไหนมาดูแล
  • หากองค์กรของคุณมีพนักงานไม่ถึง 1,000 - 10,000 คน การทำ "Dedicated Email Server" ยังถือว่าไม่มีความจำเป็นและอาจจะทำให้เกิดปัญหาอีกมากมาย

ข้อดีของการทำ "Dedicated Email Server"เอง 

  1. องค์กรของคุณ สามารถควบคุมและเข้าถึง Email Server นั้นได้ตลอดเวลา, เช่น Remote เข้าไป Restart เครื่อง Server, หากมันทำงานช้าๆ
  2. คุณสามารถลง Software ที่ต้องการได้ตราบที่คุณต้องการ เช่น การลงโปรแกรมการเข้ารหัสข้อมูลในอีเมล์ สำหรับ หน่วยงานที่ต้องการเก็บข้อมูลที่เป็นความลับมากๆ เช่น ธนาคาร เป็นต้น
  3. คุณไม่ต้องไปแบ่งทรัพยากรของ Email Server กับใคร, เพราะทั้ง Server เป็นของคุณ

ข้อเสียของการทำ "Dedicated Email Server"เอง 


การทำ Dedicated email server เองต้องมีพนักงานที่คอยดูอยู่ตลอดเวลา

ต้องเป็นเจ้าหน้าที่, ที่เชี่ยวชาญด้าน Email Server โดยเฉพาะ

  1. ต้องใช้เงินในการซื้อ Server  และ ค่าเช่าที่วางใน Data Center จำนวนมาก
  2. ต้องมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวขาญด้าน Email จริงๆ ประจำอยู่ในองค์กรของคุณ
  3. คุณต้องบริหารจัดการ ตั้งแต่ ลง OS ไปจนถึงลงโปรแกรมทั้งหมด ด้วยตนเอง
  4. หากคุณคิดว่า องค์กร คุณพร้อมที่จะจ่าย, แต่อย่าลืมเรื่องการ Maintenance ของ Email Server ซึ่งมีเรื่องที่จุกจิกมากมายที่เงิน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้



บทความโดย บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Server อันดับ 1 ของประเทศไทย

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Error: Retry timeout exceeded แปลว่าอะไร

เกิดอะไรขึ้น?

ข้อความตีกลับ (NDR) ดังกล่าวเป็นปัญหาการติดต่อสื่อสารไปยัง Mail Server ปลายทาง ที่มันอาจจะพยายามทำการส่งอีเมล์ออกอยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดเกิดความล้มเหลว ทำให้อีเมล์ดังกล่าวที่ผู้ส่งพยายามส่งไม่สามารถไปถึงผู้รับได้ ซึ่งแต่ละ Mail Server จะทำการส่งอีเมล์ออกตามความถี่ของแต่ละ Server ที่กำหนดไว้ เมื่อไม่สำเร็จ Sender ก็จะได้รับข้อความตีกลับว่า "Retry timeout exceeded"


ทำไมเราถึงได้รับ Error: Retry timeout exceeded

Error ตีกลับนี้เกิดขึ้นได้โดยหลายเหตุปัจจัยมากมาย ซึ่งต้องค่อย ๆ ศึกษาหาคำตอบ และดูเป็นกรณี ๆ ไป เช่น Mail Server ปลายทาง มี Mailbox เต็ม, ปัญหาเครือข่ายไร้สายภายในองค์กร, ปัญหา SMTP Server Port ถูกบล็อค เป็นต้น


วิธีการแก้ไข

ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าสาเหตุของ Error นั้นอาจเกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ทำให้เราต้องค่อยๆ หาทางแก้ไข หรือจุดบกพร่องเป็นกรณี ๆ ถ้ามั่นใจว่าปัญหาเกิดจาก Mail Server ปลายทาง ก็ยากที่จะแก้ไขได้ เนื่องจากว่า Sender คงไม่มีความสามารถไปควบคุม Mail Server ปลายทางให้รับอีเมล์ดังกล่าวได้ในขณะเกิดปัญหา แต่ก็มีวิธีแนะนำดังนี้

1. Save อีเมล์ตีกลับที่ผู้ส่งได้รับออกมาเป็น EML File
2. นำส่งผู้ให้บริการอีเมล์ของเรา หรือปรึกษา Technical Support ให้ตรวจสอบหาสาเหตุ
3. นำส่งผู้ให้บริการอีเมล์ของ Server ปลายทางให้ตรวจสอบหาสาเหตุ (กรณีปัญหาเกิดจาก Mail Server ปลายทาง)

ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เช่า Email Hosting ที่ไหนดี ที่สุด วิธีเลือกง่ายๆ เข้ามาดูกัน !

วิธีการเช่า Email Hosting บริษัทไหนดี



มีความซับซ้อนสูง

การทำ Email Hosting ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งผู้ให้บริการ เช่า Email Hosting มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านการให้บริการ Email Hosting ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาแก่ผู้ใช้งานอีกจำนวนมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อธุรกิจของผู้รับบริการอย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้



ปัญหา Junk Mail ในการเช่า Email Hosting



ปัญหาอีเมล์โฆษณา

หลายๆคนที่ใช้บริการ Free Email เช่น Hotmail, Gmail มาจะทราบว่า อีเมล์โฆษณา ที่หลุดเข้าไปถึง Inbox จริงๆนั้นน้อยมาก ซึ่งต่างจากการ เช่า Email Hosting หาก Server ไม่มีระบบประมวลผลอันชาญฉลาด คุณจะพบว่า User แต่ละคนจะได้รับ Email โฆษณา 5-10 ฉบับ ต่อวันต่อ Account ทำให้เครื่องของผู้ใช้งานมีแต่อีเมล์เด้งเตือนว่าได้รับ Email แต่อีเมล์เหล่านั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย




ปัญหาการส่ง Email ไม่ออก เพราะ Server ติด Blacklist


ส่งอีเมล์ไม่ออก

เนื่องจาก Email Hosting หนึ่งเครื่องประกอบไปด้วย User เป็นพันๆ Users ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ IP ของ Email Server นั้นจะติด Blacklist และทำให้ User ในเครื่องทั้งหมดส่ง Email ไปหาปลายทางไม่ค่อยได้




ปัญหา Email รับส่ง ล่าช้า 



ได้รับอีเมล์ล่าช้า

ปัญหาได้รับ Email ล่าช้าเป็นปัญหาใหญ่ หากใช้งาน Email ในการติดต่อสื่อสารด้านธุรกิจ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักเกิดกับ Server ที่มีผู้ใช้งานรวมกันจำนวนมากๆ เพราะจะทำให้แย่ง Bandwidth กัน หรือ บางครั้ง Traffic ก็เต็มไปเลย จนทำให้ อีเมล์เข้า และ ออกล่าช้า ตามกันไป




ปัญหา Email Hosting ล่ม หรือ Mail Server ล่ม


Email ล่ม

ปัญหา Email ล่มยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่ Users จำนวนมากต้องประสบ ซึ่งเมื่อระบบ Email ในบริษัทนั้นล่ม ย่อมส่งผลโดยตรงต่อพนักงาน และ การขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นผู้ให้บริการเช่า Email Hosting ที่ดี ต้องมีศักยภาพด้านความเสถียรภาพสูง หรือ ล่มน้อยที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง


บทความโดย

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด | ผู้ให้บริการ Email Hosting แก่ลูกค้าธุรกิจ

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำไม Email ที่ถูกแถมมากับเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ถึงมีปัญหา ?


หลายคนๆที่เคยมีประสบการณ์ใช้งานอีเมล์ (Email) ที่ถูกแถมมากับเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ที่เช่าอยู่ในราคาไม่กี่ร้อยหรือไม่กี่พันบาทต่อปีขึ้นไปมักจะพบปัญหา เช่น ส่งอีเมล์ไม่ออก, รับอีเมล์ไม่ได้, อีเมล์ดีเลย์ (Email Delay) ภาษาที่แสดงผิดเพี้ยนไปจากเดิม (Language/interface problem) ผู้เขียนจะอธิบายในบทความตามด้านล่างนี้




ภาพประกอบ การทำงานของ Web Server/Hosting ทั่วไป


1. อีเมล์ดีเลย์ (Email Delay)

ผู้ใช้งานเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ต้องทำความเข้าใจ หรือ ยอมรับข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่าในเว็บเซิฟเวอร์หนึ่งเครื่อง ไม่ได้มีเว็บไซต์คุณเพียงเว็บไซต์เดียว แต่กลับประกอบไปด้วยเว็บไซต์หรือโดเมน (Website/Domain) จำนวนมากที่ใช้บริการใน Server นั้นๆอยู่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คุณจะพบกับปัญหา อีเมล์ดีเลย์ Delay


เพราะ Web Server ต้องทำการประมวลผลตั้งแต่ข้อมูลธรรมดาที่แสดงในเว็บไซต์ (Website), ระบบฐานข้อมูล (Database), ระบบบริหารจัดการ (Control panel) ดังนั้นการประมวลผลเรื่อง อีเมล์ (Email) ถือ เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น และมากกว่านั้นในแต่ละ Server ยังประกอบด้วยผู้ใช้อีเมล์ (Email) เป็นจำนวน > 10,000 email  นอกจากจะใช้ทรัพยากรในส่วนอื่นๆแล้ว คุณยังไม่ใช้ทรัพยากรร่วมกัน 10,000 email ใน Server นั้นด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เกิดการทำงานที่ล่าช้า หรือ Delay



2. ส่ง Email ไม่ออก

ความเข้าใจอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจควรทราบ คือ เมื่อมี Email ใด Email หนึ่งใน Web Server/Hosting ได้ทำการส่ง Email โฆษณาไปหา Email Hotmail, Yahoo, Gmail มากผิดปกติ เพื่อโฆษณาขายสินค้าของตนเอง หากระบบ Web Server ไม่มีการจำกัด หรือ บริหารได้ไม่ดีพอ IP ของ Server คุณจะถูก Block โดย Email ค่ายนั้นๆ เช่น หากคุณส่ง Email ไปหาเพื่อนที่ใช้ Hotmail ได้ แต่ กลับส่ง Email ไปหาเพื่อนที่ใช้ Gmail ไม่ได้ แสดงว่า IP ของ Server คุณติด Black list (บัญชีดำ) ของ Gmail แต่แทนที่ Email ของบุคคลนั้นจะโดน Block คนเดียว แต่ไม่เป็นเช่นนั้น มัน Block IP ทั้ง Server เลยทีเดียว




3. รับอีเมล์ไม่ได้


ข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเข้าใจ คือ ผู้ให้บริการ Web Hosting/Server นั้นต้องเน้นปริมาณ Website/Domain มากๆ ใน Server แต่ละเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของธุรกิจเพื่อความคุ้มค่าในการดำเนินการ ดังนั้น หากคุณเจอปัญหา รับอีเมล์ไม่ได้ จึงไม่แปลก เพราะการทำงานของ Server มันต้องมีการทำงานที่ผิดพลาดบ้าง เนื่องจากมีผู้ใช้บริการใน Web Server จำนวนมาก การประมวลผลที่ต้องทำงานอย่างหนัก ประกอบกับจำนวนผู้ใช้ Email ใน Server นั้นๆ


4. ภาษาผิดเพี้ยน


เราต้องยอมรับว่า Web Server ทั้งหลายนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานสำหรับการเป็น Web Server ซึ่ง Email เป็นเพียงองค์ประกอบเดียวเท่านั้น ดังนั้น การแสดงผลด้านภาษา มันไม่ได้ถูกพัฒนาเพื่อการใช้งานอย่าต่อเนื่องหรือตรงตามความเป็นจริงดังนั้นจึงไม่แปลก หากคุณส่ง Email ที่มีเนื้อหาเป็นภาษาไทย, ญีปุ่น, จีน เมื่อผู้รับเปิดจะเกิดปัญหา คือ ภาษาผิดเพี้ยนไป เช่น แสดงเป็นอักษร???? เป็นต้น
การแก้ไขปัญหา



การแก้ไขปัญหา


หากคุณจำเป็นที่จะต้องใช้ Email@domain name ตัวเองในการดำเนินธุรกิจแทนการใช้ Free Email เช่น Hotmail, Gmail, Yahoo ไม่ว่าด้วยเหตุผลด้านความน่าเชื่อถือ หรือ อะไรก็แล้วแต่ คุณควรเลือกผู้ให้บริการที่เป็น Email Hosting/Server โดยเฉพาะ


เพราะระบบเหล่านี้จะถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อใช้งานในการติดต่อ Email ทางธุรกิจ และ Server มันก็จะประมวลผลแต่เรื่อง Email เท่านั้น รวมถึง ความรวดเร็วในการใช้งาน, Interface ก็ยังถูกพัฒนาอยู่ตลอดเพื่อให้รองรับภาษาต่างๆ อย่างเต็มที่  ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนให้คำแนะนำว่าควรรีบดำเนินการ ก่อนที่ปัญหาด้านบนจะประสบกับท่าน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย หรือ โอกาสของธุรกิจของคุณได้



บทความที่เกี่ยวข้อง




บทความโดย

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้ให้บริการ Email Hosting และ Mail Server อันดับ 1 

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[TL GoCloud][iOS-POP] การตั้งค่าอีเมล์, Add Account... บน iPhone, iPad, iPod Touch

การตั้งค่าอีเมล์บน iPhone, iPad, iPod Touch มีวิธีการดังนี้


เลือก Settings


ไปที่ Mail, Contacts, Calendars 


 เลือก Add Account


เลือก Other


เลือก Add Mail Account


กรอกรายละเอียดของบัญชีอีเมล์ จากนั้นกด Next


เลือกประเภท POP
ตั้งค่า Incoming Mail Server
Host Name: pop.(ชื่อโดเมน)
Username: (ชื่อบัญชีอีเมล์),  Password: (รหัสผ่านของอีเมล์)
Outgoing Mail Server
Host Name: smtp.(ชื่อโดเมน)
Username: (ชื่อบัญชีอีเมล์),  Password: (รหัสผ่านของอีเมล์)


รอการ Verify จาก Server

เมื่อเพิ่มบัญชีสำเร็จ จะมีหน้าต่างแทรกขึ้นมา แจ้งว่า Cannot Verify Server Identity
ให้กด Continue

รอการ Verify จาก Server

เมื่อเพิ่มบัญชีสำเร็จ จะมีหน้าต่างแทรกขึ้นมา แจ้งว่า Cannot Verify Server Identity
ให้กด Continue

สามารถใช้งานได้ทันที


ผู้ให้บริการเช่าEmail Server อันดับ 1

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ระบบกรอง เพื่อแก้ปัญหา spam mail ทำงานอย่างไรบน mail server

ระบบกรอง spam หรือ Spam filter นั้นทำงานอย่างไร

แก้ปัญหา spam mail แบบถาวร


เมื่อ spam mail นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป, ผู้ที่ใช้งาน email ในการดำเนินธุรกิจเป็นหลัก หลายๆบริษัท มักพบปัญหา spam mail เยอะ, ทั้ง Block, ตั้งเป็น Black list แล้ว แก้ยังไงก็ไม่หาย โดยเฉพาะ บริษัทที่ใช้งานบน mail server ทั้งแบบเช่า หรือ ทำเองในบริษัท จะเจอปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาแรกๆที่น่าปวดหัวมาก และ spam mail บางตัวยังแอบแฝงไปด้วย ไวรัสอีเมล์ ที่อาจจะทำให้คุณโดนโจรกรรมข้อมูล (Hack Email), ปัญหาเหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้ หากมี ระบบกรอง spam ที่มีประสิทธิภาพ และ สามารถเรียนรู้ spam ใหม่ๆ ได้อยู่เสมอ เราลองมาดูกัน ว่า ระบบกรอง spam นั้นทำงานอย่างไร

การทำงานของระบบ กรอง spam mail
ของ บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ภาพอธิบายการทำงานของ ระบบกรอง spam หรือ "spam filter"
  1. เมื่ออีเมล์ จากผู้ส่ง (Sender) ได้ทำการส่งอีเมล์มาหาคุณ
  2. ระบบกรอง Spam (Spam Filter) จะทำหน้าที่ Scan ไปยังเนื้อหา,หัวข้อ,ไฟล์,Link ในอีเมล์ฉบับนี้ และ เช็ค Sender IP ว่าติด Black list (RBL) หรือ ถูกตั้งเป็น Blacklist จากระบบ spam filter หรือยัง และ จะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อ คาดคะเนความเป็นไปได้ว่า อีเมล์ ฉบับนี้เป็น spam mail หรือไม่
  3. Email ที่ถูกระบบ Spam Filter ทำการ Scan และ พบว่า อีเมล์ฉบับนั้น เป็น Spam mail จะถูกโยนเข้าถังขยะเพื่อลบทิ้ง, แต่หากระบบได้ทำการวิเคราะห์ว่าไม่ใช้ Spam mail ก็จะส่งอีเมล์นี้มายังผู้รับ (Reciever)


บทความโดย
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Mail Server พร้อมระบบ Spam Filter มาตรฐานยุโรปที่ดีที่สุด

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ส่งอีเมล์ไม่ถึงผู้รับ Error: Sender address rejected: Domain not found



ข้อความปฏิเสธจาก Mail Server ดังกล่าว มักจะพบใน Log การส่งอีเมล์ ใน Mail Server ของผู้ส่งดังตัวอย่าง

=============
xxx@domain.com R=lookuphost T=remote_smtp defer (-44): SMTP error from remote mail server after RCPT TO:<name@domain.com>: host spamfilter.domain.com [203.146.205.102]: 450 4.1.8 <yyy@company.co.th>: Sender address rejected: Domain not found
=============

สาเหตุที่เกิด Error ดังกล่าว ได้แก่

1. Domain ของปลายทางที่ผู้ส่งพยายามส่งอีเมล์ออกไปนั้น ไม่มีชื่ออยู่จริง
2. ช่วงเวลาที่ส่งข้อความดังกล่าว Mail Server อาจจะเกิดปัญหาขัดข้องบางอย่าง ทำให้ข้อความถูกตีกลับ เช่น ค้นหา MX ไม่เจอ, ตั้งค่า MX ผิดรูปแบบ เป็นต้น


ปัญหาดังกล่าวต้องมีการไล่ตรวจสอบทีละสาเหตุว่า Domain ดังกล่าวมีการตั้งค่า DNS ต่าง ๆ ถูกต้องแล้วหรือไม่ แล้วให้ผู้ส่งทำการทดสอบส่งอีเมล์อีกครั้ง


บทความที่เกี่ยวข้อง



ผู้ให้บริการเช่าEmail Hosting อันดับ 1


วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กรณีศึกษา : การแก้ปัญหา Mail Server ปลายทางตีกลับ Email บางฉบับ จากต้นทาง




บางครั้งเราอาจพบกับปัญหา การส่งอีเมล์แล้วถูกตีกลับโดยปลายทาง ซึ่งมีสาเหตุในการตีกลับที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เรามีตัวอย่างปัญหา และวิธีการแก้ปัญหามาให้ศึกษากัน




out 4  ไม่สามารถส่งอีเมล์ไปที่ปลายทางได้


จากภาพ Old Flow  (มีปัญหาการส่งออก)

     ขาออกของโดเมนต้นทาง นำอีเมล์ไปยัง outbound ซึ่งมี server ย่อยๆ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวดีดอีเมล์ออกจากระบบ โดยมีการทำงานลักษณะสุ่มใช้ตัวดีด จากภาพ server ย่อย ตัวที่ 4ไม่สามารถดีดอีเมล์ออกไปได้ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการติด firewall ของ server ปลายทางทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ได้



เพิ่ม server เพื่อใช้ในการส่งออกโดยเฉพาะ เมล์ไปถึงปลายทางได้ทุกฉบับ


วิธีการแก้ปัญหา (แก้ปัญหาการส่งออก)

      จากภาพ New Flow ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมการทำงานแบบ Old Flow ได้ เราจึงทำการแก้ไขโดย นำserver ตัวใหม่เข้ามาเพื่อใช้ในการดีดอีเมล์ออกโดยเฉพาะ โดยทำการทดสอบเบื้องต้นว่า เมื่อส่งอีเมล์ออกไปแล้ว ปลายทางได้รับหรือไม่ หากในครั้งแรกนั้น ปลายทางได้รับอีเมล์ปกติ เราสามารถนำ server นี้ มาใช้งานจริงได้ทันที 


บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความโดย

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[Outlook] วิธีย้ายอีเมล์ที่เข้า Junk E-mail ลงใน Inbox แบบถาวร



ปัญหาอีเมล์ที่โปรแกรม Outlook ดูดลงมานั้น บางครั้งโปรแกรม Outlook จะคิดว่าเป็นอีเมล์ขยะ ซึ่งจะทำให้อีเมล์ฉบับดังกล่าวไปอยู่ใน Junk E-mail ทำให้เราหาอีเมล์ที่ต้องการไม่เจอ ดังนั้นการที่จะไม่ให้อีเมล์เข้าไปอยู่ใน Junk E-mail สามารถทำได้ดังนี้

วิธีย้ายอีเมล์ที่เข้า Junk E-mail ลงใน Inbox แบบถาวร สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้


วิธีที่ 1

1. เข้า Junk E-mail เพื่อหาอีเมล์ที่ต้องการ

เมื่อเข้าหน้า Junk E-mail จะเห็นอีเมล์ที่ Outlook คิดว่าเป็นเมล์ขยะ


2. เลือกอีเมล์ที่ไม่ต้องการให้เข้าใน Junk E-mail อีก

ให้คลิกขวาอีเมล์ที่ต้องการ จากนั้นเลือก Junk > Never Block Sender's Domain แล้วกด OK
การเลือก Never Block Sender's Domain จะหมายถึง
อีเมล์ทุกฉบับของโดเมนที่เลือกจะไม่ถูกคิดว่าเป็นอีเมล์ขยะ


3. จากนั้นให้ย้ายอีเมล์เข้า inbox ตามปกติ

คลิกขวาที่อีเมล์ จากนั้นเลือก Junk > Not Junk
อีเมล์จะถูกย้ายไปอยู่ใน Inbox

หลังจากที่ดำเนินการแล้ว
อีเมล์ทุกฉบับของโดเมนที่เลือกจะไม่เข้า Junk E-mail อีก


วิธีที่ 2


1. ให้เลือกหัวข้อ Junk E-mail Options..

หัวข้อ Junk E-mail Options.. คือการเข้าไปจัดการ Junk E-mail


2. จะแสดงหน้าต่างจัดการ Junk E-mail

ให้เลือก Tab Safe Senders จากนั้นกด Add
เพื่อใส่อีเมล์ หรือ โดเมน ที่ไม่ต้องการให้เข้า Junk E-mail
เช่น abc@ex123.com หรือ @ex123.com เป็นต้น


3. เมื่อใส่อีเมล์ที่ต้องการแล้ว ก็จะแสดงอีเมล์ในหน้าต่างนี้


อีเมล์ หรือ โดเมนใดที่ใส่แล้ว จะไม่เข้ากล่อง Junk E-mail แบบถาวร

บทความที่เกี่ยวข้อง





บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด 
ผู้ให้บริการเช่าEmail Server อันดับ 1

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[Outlook for Mac] วิธีการ Block อีเมล์ขยะ (Block sender)

ผู้ใช้ที่ใช้อีเมล์ประจำคงจะเคยประสบปัญหา อีเมล์ขยะ เช่น อีเมล์โฆษณาขายของ, จัดสัมนาต่าง ๆ หรือ Spam mail ที่ชอบส่งมาหลอกให้บริจาคเงิน คงจะเคยพบเห็นกันบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญ และสร้างความไม่สะดวกให้กับผู้ใช้งาน สำหรับโปรแกรม Outlook for Mac สามารถ Block sender ที่ส่งอีเมล์ขยะได้ ในโปรแกรมนี้จะไม่ได้เป็นการ Block ไม่ให้อีเมล์ผ่านเข้ามาใน Mail Server แต่เป็นการตั้งค่าตัวกรองขึ้นมาให้อีเมล์นี้ ย้ายไปอยู่ใน Folder: Junk Mail ซึ่งสามารถทำได้เอง กรณีที่ Mail Server มีตัวกรองที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ หรือกรองแล้วแต่อีเมล์ขยะฉบับนี้หลุดเข้ามาใน Mailbox เราจริง ๆ

วิธีการตั้งค่า Block Sender  ทำได้ง่าย ๆ ตามภาพประกอบนี้


วิธีที่ 1

1. เลือกข้อความอีเมล์ที่ต้องการ Block
2. คลิกที่เมนู Message
3. เลือก Junk Mail
4. คลิก Block Sender

 วิธีที่ 2

คลิกที่ไอคอน Junk > Junk E-mail Protection...

พิมพ์ชื่อบัญชีอีเมล์ หรือโดเมนที่ต้องการ Block ในช่อง Blocked Senders
กรณีมีมากกว่า 1 อีเมล์ ให้คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค หรือ Comma ','
จากนั้นคลิก OK

วิธีการ Block Sender ทำได้ไม่ยาก เช่นเดียวกันกรณีที่ต้องการ Unblock Sender ก็แค่การนำรายชื่อบัญชีอีเมล์หรือโดเมนออกจากช่อง Blocked Senders

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด

ผู้ให้บริการเช่า Email Server/Hosting สำหรับองค์กร คุณภาพสูง

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

[Outlook] Server error: '452 Too many recipients.' แก้ไขอย่างไร



 Server error: '452 Too many recipients.'

โดยทั่วไปหาก Sender ได้รับข้อความตีกลับ (NDR) ที่มีเนื้อหาดังตัวอย่างตามภาพแล้ว มักจะเกิดจากการส่งอีเมล์ไปยังผู้รับมากเกินไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ Mail Server กำหนด ปกติแล้วจะส่งได้มากถึง 50 ผู้รับต่อครั้ง แต่ในกรณีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่า Sender พยายามส่งออกอีเมล์เพียงแค่ 11 คนเท่านั้น ก็ได้รับอีเมล์ตีกลับจากระบบแล้ว เรามาตรวจสอบดูตัวอย่างพร้อม ๆ กัน
อีเมล์ตีกลับจาก System Administrator

ตัวอย่างข้อความตีกลับที่ส่งอีเมล์ไปยังผู้รับเกิน 10 คน

วิธีการเช็ค Header ของอีเมล์เพื่อตรวจสอบว่าอีเมล์ฉบับดังกล่าวส่งมาจากที่ใด

ไปที่ File

 คลิกปุ่ม 'Properties'

Header จะแสดงอยู่ที่ช่อง 'Internet Headers'

วิธีการวิเคราะห์ปัญหา

จากที่เราพยายามค้นหา Header ของอีเมล์ ก็พบว่าอีเมล์นี้ไม่มี Header แสดงว่า สาเหตุที่ Sender ได้รับอีเมล์ตีกลับ ไม่ได้มาจากการตั้ง Sending Limited ของ Mail Server ของผู้ให้บริการอย่างแน่นอน

จากนั้นได้ทดสอบสมมติฐานที่ 2 คือ ให้ผู้ส่ง Login ไปยัง Webmail และทำการส่งข้อความไปยังผู้รับจำนวน 11 อีเมล์ ปรากฏว่าสามารถส่งออกได้สำเร็จ

ดังนั้นผู้เขียนจึงให้ผู้ส่งทำการทดสอบอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนสัญญาณอินเตอร์เน็ต จาก ISP หนึ่ง ไปยังอีก ISP หนึ่ง โดยใช้ Air Card เชื่อมต่อ Internet และส่งอีเมล์ดังกล่าวอีกครั้ง ผลปรากฏว่า เมื่อทำการส่งอีเมล์ไปยังผู้รับ 11 อีเมล์ ด้วยโปรแกรม MS Outlook สามารถส่งออกได้สำเร็จ

สรุปได้ว่า Server error: '452 Too many recipients.' ที่ผู้ส่งได้รับนั้น เป็นการตีกลับที่มาจากการจำกัดการส่งของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต

ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงต้องให้ทางผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตตรวจสอบไปยังระบบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว