แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา ผู้ให้บริการอีเมล์ จัดเรียงตามวันที่ แสดงโพสต์ทั้งหมด
แสดงโพสต์โดยจัดเรียงตามความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา ผู้ให้บริการอีเมล์ จัดเรียงตามวันที่ แสดงโพสต์ทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

Google Apps สามารถรับ Email ที่ Sender IP ติด Blacklist ได้หรือไม่



90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการอีเมล์ทั่วไป จะมีระบบป้องกัน spam mail แบบ Real-time Black hole list (RBL) เปรียบเสมือนสมุดที่มีรายชื่อของพวก spam และ blacklist อยู่ และจะทำการบล็อค IP นั้นๆทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ขยะเข้ามาได้อีก ฟังดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดี แต่ช้าก่อน การโดนบล็อคทั้ง IP ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะนั่นทำให้คุณไม่สามารถรับอีเมล์ที่ดีจาก IP นั้นๆไปด้วย

แล้วจะทำอย่างไร?

จากที่กล่าวไปแล้วว่ามี 90เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการอีเมล์ที่ใช้ระบบนี้ แปลว่ายังมีอีกประมาน 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการ ที่มีระบบแตกต่างจากระบบข้างต้น

หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้งที่ดี มีมาตรฐาน คุณควรเลือกผู้ให้บริการที่มีระบบ Spam Guard ที่มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน และหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ก็คือ Google Apps

ระบบการป้องกันของ Google Apps

Google Apps มีระบบ Spam Guard ที่มีความฉลาดในการแยกแยะอีเมล์ว่าอีเมล์นั้นๆเป็นอีเมล์ที่ดีหรือไม่ ด้วยความที่ Google มีฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ ทำให้สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่าอีเมล์นั้นๆสมควรปล่อยผ่านหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมโดยวัดจากพฤติกรรมของผู้ใช้ หากว่าอีเมล์ฉบับนั้นเคยถูกปล่อยผ่านเข้าไปใน Inbox แล้วผู้ใช้ไม่เปิดอ่าน ลบทิ้งบ่อยๆ จะเกิดการเรียนรู้ว่าอีเมล์ฉบับนั้นมีความผิดปกติ ซึ่งในกรณีที่เห็นว่าอีเมล์ฉบับใดไม่น่าไว้ใจ Google จะไม่บล็อคทั้ง IP
แต่จะบล็อคแค่อีเมล์ที่มีปัญหาเท่านั้น นั่นจึงสรุปได้ว่า Google Apps สามารถรับอีเมล์ที่ Sender IP ติด Blacklist ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง
[OS X] วิธี Sync ปฏิทินของ Gmail ลงบน Mac
Google Apps สามารถกรอง Spam Junk ได้แม่นยำแค่ไหน
วิธีการแชร์ Google Spreadsheets ให้คนอื่น

ความแตกต่างระหว่างดูอย่างเดียวกับแก้ไขได้ในการแชร์ Google Apps



ผู้ให้บริการ Email Hosting คุณภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ Google Apps ได้เป็นอย่างดี




วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Email (อีเมล์) คือ อะไร รวมถึงข้อดีและข้อเสีย ของการใช้อีเมล์ และจะใช้อีเมล์ในธุรกิจได้อย่างไร

บทความเรียบเรียงโดย
www.maildee.com ผู้ให้บริการ Email Server Hosting อีเมล์ธุรกิจ อันดับ 1 ของประเทศ
ที่หลายๆ บริษัทชั้นนำไว้ใจ 
คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดต่อ >>

Good or bad, Email for business
ความหมายของอีเมล และ ข้อดีข้อเสียของการนำอีเมลธุรกิจมาใช้ในองค์กร





        อีเมล์ (อังกฤษ: e-mail, email) ย่อมาจาก จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: electronic mail) คือวิธีการหนึ่งของการแลกเปลี่ยนข้อความแบบดิจิทัล ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อให้มนุษย์ใช้เป็นหลัก ข้อความนั้นจะต้องประกอบด้วยเนื้อหา ที่อยู่ของผู้ส่ง และที่อยู่ของผู้รับ (ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่ง) เป็นอย่างน้อย บริการอีเมล์บนอินเทอร์เน็ตในทุกวันนี้เริ่มมีการจัดตั้งมาจากอาร์พาเน็ต (ARPANET) และมีการดัดแปลงโค้ดจนนำไปสู่มาตรฐานของการเข้ารหัสข้อความ RFC 733 อีเมล์ที่ส่งกันในยุคคริสต์ทศวรรษ 1970 นั้นมีความคล้ายคลึงกับอีเมลในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงจากอาร์พาเน็ตไปเป็นอินเทอร์เน็ตในคริสต์ทศวรรษ 1980 ทำให้เกิดรายละเอียดแบบสมัยใหม่ของการบริการ โดยส่งข้อมูลผ่านเกณฑ์วิธีถ่ายโอนไปรษณีย์อย่างง่าย (SMTP) ซึ่งได้เผยแพร่เป็นมาตรฐานอินเทอร์เน็ต 10 (RFC 821) เมื่อ พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) และเปลี่ยน RFC 733 ไปเป็นมาตรฐานอินเทอร์เน็ต 11 (RFC 822)
การแนบไฟล์มัลติมีเดียเริ่มมีการทำให้เป็นมาตรฐานใน พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) ด้วย RFC 2045 ไปจนถึง RFC 2049 และภายหลังก็เรียกกันว่าส่วนขยายสื่อประสมในระบบอินเทอร์เน็ตแบบอเนกประสงค์ (MIME)
ระบบอีเมล์ที่ดำเนินงานบนเครือข่าย มากกว่าที่จะจำกัดอยู่บนเครื่องที่ใช้ร่วมกันครื่องเดียว มีพื้นฐานอยู่บนแบบจำลองบันทึกและส่งต่อ (store-and-forward model) เครื่องให้บริการอีเมล์นั้นจะตอบรับ, ส่งต่อ หรือเก็บบันทึกข้อความขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยที่ผู้ใช้คนนั้นจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับระบบอีเมล์ภายในด้วยคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ บนเครือข่าย ในการรับส่งข้อความจากเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนด ส่วนการส่งอีเมล์โดยตรงจากอุปกรณ์สู่อุปกรณ์นั้นพบได้ยากกว่า
อีเมล์ในเมืองไทยเริ่มต้นมีการใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 โดยอีเมล์ฉบับแรกของไทยเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ส่งไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ในการทดสอบระบบ
                                                                                                                                   จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อดีข้อเสียของการใช้ Email




ข้อดีของการใช้ Email ธุรกิจ (ฺBusiness Email)
1. ใช้ระยะเวลาไม่นานมาก สำหรับ การส่งข้อมูลถึงผู้รับ
2. สามารถย้อนกลับมาดูข้อมูล ที่ได้รับจากผู้ส่ง ระบบอีเมล์จะทำการบันทึกข้อมูลไว้ เพื่อประโยชน์ในการหาข้อมูลย้อนหลัง
3. เราสามารถทราบได้ว่า Address ที่เราส่งไปนั้นมีผู้รับจริงหรือไม่ เพราะระบบอีเมล์จะมีการแจ้งเตือนกลับมา หลังจากที่อีเมล์ถูกส่งออกไป
4. การรับข้อมมูล ผู้รับสามารถ เปิดเช็คอีเมล์ได้หลายระบบ ทั้งด้านคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมกันในสมัยต่างๆ
5. ข้อมูลที่ส่ง สามารถส่งได้ทั้งภาพ, เสียง, ตัวอักษร หรือแม้กระทั้งวีดีโอ สามารถลองรับไฟล์หลายประเภทได้





ข้อเสียของ Email for business (อีเมลธุรกิจ)
1. บางครั้งในการส่ง e-mail นั้น อาจะเกิดข้อสงสัยไม่ชัดเจน เหมือนการสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ อาจจะไม่ชี้ชัดแม่นยำพอ 
2. การส่ง address ที่อยู่ e-mail อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ เนื่องจากการใช้อักษรเป็นตัวกำหนด หรือผู้รับมีการเปลี่ยนแปลง address ระบบ e-mailจึงไม่สามารถตอบโต้ทันที ถ้าหากมีการใช้ตัวอักษรผิด หรือaddress ที่ไม่มีผู้ใช้ หรือยกเลิกใช้แล้ว 
ถ้ามีการผิดพลาด ระบบจะใช้เวลาสักครู่หนึ่ง เพื่อส่งอีเมล์กลับมายังผู้ส่ง เพื่อเตือนข้อผิดพลาด เนื่อวจากบางทีผู้ส่งไม่ได้คิดว่า address การส่งจะมีปัญหา จึงเกิดความ ชะล่าใจในการตรวจสอบ
3. ไวรัส อีเมล์เป็นช่องทางหนึ่ง ของการแพร่กระจายไวรัส ไปยังผู้อื่น ดังนั้นผู้รับเมล์อาจจะต้องตรวจสอบอีเมล์นั้นให้แน่ชัดก่อน หรือติดต่อทีมดูแลด้านอีเมล์ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการสูญหายของข้อมูลของท่าน
4.การใช้สื่อ Electronic ทุกประเภท แม้กระทั้ง Social ต่างๆ ทุกประเภท ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งหมด เปรียบเสมือนดาบ 2 คม ดังนั้นเราจึงควรใช้สติในการเลือกใช้สื่ออย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของเรา และผลเสียหายที่อาจจะตามมาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

อีเมล์สำเร็จรูปสำหรับบริษัทและองค์กร (Ready to use email) คือ อะไร และต้องติดตั้งอุปกรณ์มั้ย





วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สมัคร อีเมล์สำหรับธุรกิจ (Corporate Email) ต่างกับ ฟรีอีเมล์ (Free Email) ทั่วไปอย่างไร

แบบไหนดีกว่ากัน ระหว่างฟรี กับ เสียเงินสร้างอีเมล์บริษัท
ความแตกต่างระหว่าง Free Email กับ Business email หรือ name@yourcompany.com

ฟรีอีเมล์(Free Email)  และอีเมล์สำหรับธุรกิจ(Corporate Email) ต่างกันอย่างไร

Free Email หลายคนคงเคยได้ยินว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" (There is no free lunch) แต่จริง ๆ แล้วของฟรีมีในโลก แต่จะเหมาะสมดี หรือเสี่ยงกับการใช้งาน ของคุณรึเปล่า จะมีปัญหาต่อองค์กรธุรกิจของคุณรึเปล่า


ใครจะให้คำแนะนำ หรือ แก้ไขปัญหาให้คุณ เมื่ออีเมล์ของคุณมีปัญหา



ถ้าหากกรณีฉุกเฉินต้องใช้ Email เพื่อตอบลูกค้า แล้วดันเกิดมีปัญหาขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบให้คุณ องค์กรของคุณอาจจะเสียเครดิต เสียความน่าเชื่อถือของลูกค้าไปก็ได้ นอกจากนี้ใน inbox ของคุณมีอีเมล์เป็นร้อยฉบับ ใครจะเป็นคนดูแลให้คุณ, สามารถคุยกับเขาได้ไหม และสอบถามปัญหาได้ไหม


ตัวอย่างผู้ให้บริการ ฟรีอีเมล์ (Free Email) 


      ฟรีอีเมล์ (Free Email) มีคนใช้มากมายทั่วโลก ซึ่งการใช้อีเมล์ฟรีส่วนใหญ่มักจะเป็นเพียง เพื่อสมัครการใช้บริการต่างๆ เช่น Social Network ต่างๆ หรือใช้ติดต่อเรื่องส่วนตัว ซึ่่งส่วนมากแล้วไม่ได้นำมาใช้ในการติดต่อกับลูกค้า
     ดังนั้นผู้ใช้จึงควรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร โดยเน้นทางด้านความน่าเชื่อถือ, ความไว้วางใจ และความปลอดภัยต่าง ๆ
 
     อีเมล์สำหรับธุรกิจ (Corporate Email) ในประเทศไทยเรามีผู้ให้บริการด้านนี้ไม่กี่ราย แน่นอนหล่ะ ถ้าคุณใช้บริการของพวกเขาเหล่านี้ คุณก็จะรู้แล้วว่าใครคือคนเก็บข้อมูลของคุณไว้ เมื่อเกิดปัญหา ใคร จะแก้ไขให้คุณได้ หรือช่วยเหลือคุณได้

ฟรีอีเมล์ (Free Email)  เวลามีปัญหาคุณจะปรึกษาใคร ? 

เป็นคำถามที่เรียบง่ายและคลาสสิก แต่หลายๆคนที่ใช้ฟรีอีเมล์ อาจจะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะก็ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใครจริงๆ 

อีเมล์สำหรับธุรกิจ (Corporate Email)  อย่างน้อยผู้ให้บริการก็ต้องคอยให้คำปรึกษาคุณ !

แน่นอนว่าอีเมล์บริษัทโดยส่วนใหญ่ ถูกสร้างและดูแลโดยบริษัทผู้ให้บริการ Email Hosting ดังนั้นเมื่อคุณพบปัญหาการใช้งาน หรือต้องการความช่วยเหลือ บริษัทผู้ให้บริการ Email Hosting ย่อมที่จะต้องดูแลคุณเป็นพิเศษ เพื่อให้คุณเกิดความพึงพอใจต่อบริการมากที่สุด

สมัครอีเมล์สำหรับธุรกิจ (Corporate Email) มันทำให้บริษัทของคุณดูน่าเชื่อถือกว่ากันเยอะ

ด้วยการใช้อีเมล์เป็นชื่อบริษัทของตัวเอง
ทุกๆ ธุรกิจ ต้องการภาพลักษณ์ ที่ดี แล้วคุณมั่นใจหรือยังว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ



หากถามว่าคุณจัดตั้งบริษัท เพื่ออะไร, คำตอบข้อแรกๆเลย ก็คือความน่าเชื่อถือ, แต่บริษัทหลายๆรายกลับใช้ ฟรีอีเมล์ในการติดต่อธุรกิจ และมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร หากคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ ก็แสดงว่าคุณอาจคิดผิดเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์องค์กรของคุณ

เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าในการที่ก่อตั้งบริษัท คุณต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด หรือพูดง่ายๆ อันไหนฟรีได้ยิ่งดี หรือลงทุนให้น้อยที่สุด แต่มันเป็นคำตอบที่ไม่สมเหตุสมผลเสียเลย หากคุณใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการก่อตั้งบริษัท เช่น สร้างสิ่งปลูกสร้าง, เช่าออฟฟิต และจ้างพนักงาน เพื่อทำให้ธุรกิจคุณมีความน่าเชื่อถือ แต่ดันใช้ Free email ในการติดต่อธุรกิจ หากคุณมีแนวความคิดอย่างนี้แล้ว คุณอาจมองย้อนกลับกันในกรณีที่คุณเป็นลูกค้า คุณจะกล้าส่งข้อมูลต่างๆ ไปหาคุณหรือไม่ เพราะข้อมูลทางธุรกิจส่วนใหญ่ก็เป็นความลับอยู่แล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Email Hosting/Server (อีเมล์โฮสติ้ง) คืออะไร และ ทำงานอย่างไร
ทำไม Email ที่ถูกแถมมากับเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ถึงมีปัญหา ?
อีเมล์บริษัท (Email For Business) คือ อะไร ที่ไหนดีที่สุด


นอกจากองค์กรหรือบริษัทของคุณจำเป็นต้องพิจารณาเลือกใช้ระบบอีเมล์ให้เหมาะสมแล้ว การเลือกใช้บริการในส่วนของ Web Hosting ก็สำคัญไม่แพ้กัน คลิ้กเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


"บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด"

ผู้ให้บริการ Email Hosting และ Web Hosting ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ที่ธุรกิจชั้นนำของประเทศเลือกใช้ คลิกเพื่ออ่านต่อ >>


วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความท้าทายของการทำ Email Hosting ให้มีคุณภาพสูง !



ความท้าทายในการทำ Email Hosting ให้มีคุณภาพสำหรับการใช้งานในธุรกิจ

เพราะ Email Hosting ที่ดี นั้นทำยาก !


ในประเทศไทยคุณสามารถหาผู้ให้บริการ Web Hosting ได้จำนวนมาก และ เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมากเพียงคุณพิมพ์คำว่า Web Hosting ก็จะมีเว็บต่างๆ แย่งกันลงโฆษณา เพื่อ ให้คุณคลิกเข้าไป

แต่สำหรับผู้ให้บริการ Email Hosting นั้น ในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่บริษัทที่ให้บริการด้าน Email Hosting เพราะอะไรถึงมีผู้ให้บริการ Email Hosting น้อยลองมาดูกัน


  1. Email Hosting มีลักษณะการทำงานโดยสิ้นเชิง กับ การทำ Web Hosting มีเพียงส่วนเดียวที่เหมือน คือ การเก็บข้อมูล ไว้  แต่นอกนั้นจะไม่มีอะไรสัมพันธ์กันเลย

  2. การทำงานของขาออก (SMTP, Outgoing Server) Email Hosting มีหน้าที่ดีด Email ออก หรือ ส่ง Email ออกไป, ผู้ให้บริการ Email Hosting จำนวนมากมักติดปัญหาเรื่อง IP Blacklist ทำให้ส่ง Email ไปยัง Email Hosting บางรายได้ โดยเฉพาะ ปลายทางที่ใช้ฟรี Email เช่น hotmail 

  3. การบริหารจัดการ User ให้ใช้งานอย่างถูกต้อง คุณลองคิดดูเองว่า Email Hosting 1 เครื่องประกอบไปด้วยจำวน  User เป็นพันๆ หมื่นๆ User ผู้ให้บริการ Email Hosting ต้องสามารถควบคุม User ไม่ให้ไปส่ง Spam หรือ ไปติดไวรัส มา เพราะจะทำให้ Email Hosting ของตนเอง ติด Blacklist

  4. Policy ในการรับอีเมล์ของ Email Hosting ก็แตกต่างกัน ถึงแม้ว่า ผู้ให้บริการ Email Hosting อาจจะสามารถควบคุมการใช้งานของ User ในการจำกัดปริมาณการส่งได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Email Hosting ทุกที่จะรับ Email ของคุณเสมอ,  Email Hosting ปลายทางโดยเฉพาะในต่างประเทศ มี Policy ที่เข้มงวดมาก เช่น Email Hosting ของผู้ส่งต้องมี PTR Record หรือ มีความน่าเชื่อถือเป็นต้น

  5. กระบวนการรับอีเมล์ (Inbound, Incomming) ก็ต้องมีการประมวลผลให้ถูกต้อง มีเคสจำนวนมากที่ ผู้รับโดน บอม ด้วยอีเมล์จำนวนมหาศาล ทำให้พื้นที่ ของ User รายนั้นเต็ม และ มากกว่านั้นอาจจะทำให้ Email Hosting ทั้งเครื่องแฮงค์ไปเลย หากไม่มีระบบบริหารจัดการที่ดี

  6. ปัญหา Junk Mail ถือ เป็นเรื่องท้าทายของผู้ให้บริการ Email Hosting เพราะ  Software ที่ทำหน้าที่เป็นระบบกรอง Junk Mail ไม่ฉลาดในเรื่องภาษาไทย จึงทำให้กระบวนการประมวลผลผิดพลาด และ ก็ทำให้ผู้ใช้งาน Email Hosting ได้รับ Junk Mail จำนวนมาก

  7. ผู้ให้บริการต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เพราะ การรับส่ง Email นั้นเป็นกระบวนสื่อสารระหว่าง Email Hosting ต้นทาง คือ ของผู้ให้บริการ และ Email Hosting ปลายทางที่เป็นของต่างประเทศ ดังนั้น ผู้ให้บริการ Email Hosting ต้องสามารถสื่อสารหรือแจ้งปัญหาไปยัง Email Hosting ปลายทางได้ ว่าเพราะเหตุใด Email เราถึงส่งเข้าไปไม่ได้ เป็นต้น

เมื่อคุณเห็นแล้วว่าการทำงานของ ระบบ Email Hosting นั้น มีความซับซ้อน และ ต้องใช้เทคนิคประสบการณ์  กว่าการที่จะสร้างระบบ Email Hosting นึงนั้นให้มีคุณภาพ และ สามารรถขายได้ในเชิงพาณิชย์ ท่านควรให้ความสำคัญต่อการเลือก บริษัท ผู้ให้บริการ Email Hosting ที่มีความเชี่ยวชาญ จริงๆ


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการ Email Hosting อันดับ 1 ของประเทศ

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จะเลือก Email Server ที่ไหนดีที่สุด เพื่อสร้าง Email (อีเมล์) ภายใต้ชื่อ Domain (โดเมน) ตัวเอง บริษัท องค์กร



สำหรับองค์กร หรือ ธุรกิจ ขนาดเล็ก (SME) จากเมื่อก่อนที่ใช้การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือ Fax กลับเปลี่ยนเป็นการติดต่อสื่อสาร ผ่าน Email (อีเมล์) เพราะทั้งรวดเร็วและสะดวก แถมยังไม่ต้องเสียค่าบริการอะไร

หลายๆธุรกิจ ยังเลือกที่จะใช้บริการ Free Email จากค่ายดังหลายๆ ค่าย แต่ เจ้าของธุรกิจบางคนกลับเห็นความสำคัญ ต่อการใช้ Email @ ชื่อบริษัทตนเอง หรือ Domain ตนเอง เนื่องจากเหตุผล ด้านความน่าเชื่อถือ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจหลายๆท่าน จะต้องหาผู้ให้บริการ Email Server คุณภาพ เพราะทั้งธุรกิจเรา อยู่ใน Email

Solution ในการแก้ไขปัญหา ของเจ้าของธุรกิจ มีอยู่หลักๆ 2 ข้อ คือ
1. ทำ Email Server เอง
2. เช่า Email Server 

คุณรู้หรือไม่ว่า การทำ Email Server เอง นอกจากจะต้องลงทุนด้าน Hardware ยังมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมาก เช่น ค่า Data Center ในการวาง Server , ค่าวิศวกรที่ต้องคอยดูแล, ค่า Software ดังนั้น เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะเลือกใช้วิธีเช่า Email Server จากบริษัท ผู้ให้บริการ แล้ววิธีการจะเริ่มต้นอย่างไร

เราสามารุถอธิบายเป็นวิธีการคร่าวๆได้ดังนี้
1.ผู้รับบริการ ต้องคิดชื่อ Domain (คือ ชื่อ หลัง @) เช่น @abc.com เป็นต้น หรือ @abc.co.th

2.ผู้ให้บริการก็จะนำชื่อ Domain นั้นไปตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลโลกว่ามีชื่อนี้ซ้ำหรือไม่ ถ้าไม่ ผู้รับบริการก็สามารถใช้งานได้

3.ผู้ให้บริการ จะทำการผู้ค่าทางเทคนิค เช่น ค่า DNS MX เป็นต้น ระหว่าง Domain ไปยัง Email Server ของผู้ให้บริการ

4.ผู้รับบริการก็จะสามารถใช้งานได้ทันที

แล้วจะเลือกผู้ให้บริการ Email Server เจ้าไหนดี
จริงๆแล้ว ในประเทศไทย มีผู้ให้บริการด้าน Email Server โดยเฉพาะ ค่อนข้างน้อย  แตกต่างกับในต่างประเทศที่มีผู้ให้บริการค่อนข้างมาก แต่ไม่ Support ภาษาไทย

แต่ในประเทศไทยจะมีแต่ผู้ให้บริการ Hosting เยอะมากซึ่งผู้ให้บริการ Hosting มักจะเขียนว่า สามารถใช้งาน Email ได้ ไม่จำกัด Users หรือ ภายใต้พื้นที่ที่กำหนด  ซึ่ง Email ที่ถูกแถมมาพร้อมกับ Hosting นั้น เมื่อนำไปใช้งานจริงๆ จะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะจะเกิดปัญหาเช่น มีพื้นที่น้อย, ส่ง Email ไม่ค่อยออก, รับเมล์ไม่ค่อยได้ เป็นต้น เพราะว่า ใน Web Server/Hosting 1 เครื่องประกอบด้วยเว็บไซต์ เป็นร้อยเป็นพันเว็บ เมื่อเว็บใดเว็บหนึ่งมีปัญหา อีเมล์ของคุณ ก็จะมีปัญหาไปด้วย

หากบริษัทคุณ เน้นเรื่อง Email จริงๆ ควรเลือกผู้ให้บริการ Email Server โดยเฉพาะ หรือ ซื้อบริการแยกอออกมาตาหาก


วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำอย่างไร เมื่ออีเมล์ (Email Server/Hosting IP) ติด blacklist(แบล็คลิส) และส่ง email ไม่ออก


วิธีแก้ไขปัญหา
ปัญหาของคนที่ใช้ Email Server แล้ว IP ติด Blacklist ทำให้ส่ง email ไม่ออก
ปัญหาโลกแตกของหน่วยงาน, องค์กร และบริษัทจำนวนมาก ที่ต้องประสบแล้วประสบอีก ส่งผลกระทบให้กระบวนการทำงานของ Email ภายในองค์กรเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ทำให้ Email ไม่สามารถ ส่งออก และ ขาดการสื่อสารโดยทันที

ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเรื้อรัง ยิ่งหากคุณไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิคเกี่ยวกับการทำงานของ Email Server ด้วยแล้ว คุณจะต้องประสบปัญหานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และ ไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวรได้อย่างไร


ปัญหาหลักๆ ของการส่ง Email ไป Hotmail, Gmail, Yahoo ไม่ได้ สาเหตุหลักๆ มักเกิดจาก IP ของ Email Server ของคุณติด Black List ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ โดย ผู้ดูแลระบบ Email Server ของท่าน แต่มักจะเกิดปัญหานี้อีกซ้ำๆ หากผู้ดูแลระบบ Email Server ของคุณ ไม่บริหารจัดการ หรือ จำกัด การส่งของ Email ในเครื่อง Server

ปัญหา  Email Server/Hosting IP ติด blacklist แบล็คลิส
คือ เมื่อมี Email หรือ User ใด ใน Server ของคุณพยายามส่ง Spam (อีเมล์โฆษณา) ไปหา Email ค่ายใหญ่ๆ เช่น Hotmail, Gmail, Yahoo เป็นจำนวนมากๆ ผู้ให้บริการเหล่านั้น จะทำการ Block IP ของ Email Server ของคุณ ทำให้ IP Email Server ของคุณติดบัญชีดำในฐานข้อมูล Black list โลก

ซึ่งระบบ Email ที่เป็นมาตรฐาน และมีชื่อเสียงของโลก จะยึดตามฐานข้อมูล Black List โลก ดังนั้นหาก IP ของ Email Server ติด Blacklist  จะทำให้ Email ของคุณไม่สามารถส่งเมล์ไปหา Hotmail, Gmail, Yaho ได้  ซึ่งเป็นนโยบาย Anti Spam ที่ทุกค่าย ให้ความสำคัญมาก เพราะหากไม่เข้มงวดในเรื่องดังกล่าว Email ที่อยู่ในค่ายนั้นๆ ก็จะมีแต่อีเมล์โฆษณา จนทำให้ผู้ใช้งานรำคาญ และเลิกใช้งานในที่สุด

ซึ่งในหนึ่ง Email Server มี Email ใช้งานอยู่เป็นหมื่นๆ Email ดังนั้นหากคุณไม่ได้เป็นผู้ส่ง Spam แต่บุคคลอื่นกลับเป็นผู้ส่ง แทนที่เค้าจะ Block Email ของคนที่ทำผิด ในทางกลับกันเค้าจะ Block IP ของ Email Server ทั้ง Server ทำให้คุณติดหางเร่ ไปด้วย

IP ของ Email Server ติด Blacklist
ภาพกระบวนการทำงานแสดงปัญหา เมื่อ IP ของ Email Server ติด Blacklist มีผลทำให้คุณส่ง Email ให้ใครไม่ได้
วิธีแก้ปัญหาเรื้อรัง เรื่อง ส่ง Email ไม่ออก
1.หากบริษัทของคุณต้องใช้ Email ในการติดต่อเป็นหลัก โปรดอย่าเลือกใช้ Email ที่ถูกแถมมากับ Web Hosting ซึ่งมีราคาหลักร้อยจนถึงพันต้นๆ ต่อปี เพราะ Server เหล่านั้น มี Email ใช้งานจำนวนมาก  ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ในวันใดวันหนึ่ง คุณอาจจะติดปัญหา IP Blacklist เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ผู้ใช้งานคนอื่น มีใครใช้งานผิดประเภท หรือใช้ส่ง Spam

2.เลือกผู้ให้บริการ ที่เป็นผู้ให้บริการ Email Server โดยเฉพาะ และมีลูกค้าในประเทศของคุณใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะผู้ให้บริการเหล่านี้ ต้องมีการบริหารจัดการลูกค้าแต่ละเจ้า ให้ใช้งานไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะหากมี User คนไหนใช้งานผิด ผู้ให้บริการ Email Server จะรีบ Block User คนนั้นทันที แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาบานปลาย และโดน Block IP ในที่สุด



3.หากคุณใช้ระบบเก่าอยู่แล้วมีปัญหาส่ง Email ไม่ออก คุณสามารถติดต่อผู้ให้บริการ Email Server รายใหม่ ให้เข้าไปตั้งค่า เพื่อเปลี่ยนผู้ให้บริการได้ ซึ่งทำให้ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร

4.ผู้ให้บริการ Email Server รายนั้นควรมี ทีม Support ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอย Monitor ระบบ Email Server ไม่ให้มีลูกค้าคนใดใช้งานผิด และสามารถระงับการใช้งานของ ลูกค้ารายนั้นได้ทัน


คุณสามารถเช็คได้ด้วยตัวคุณเอง ว่า IP Email Server ของคุณติด Blacklist หรือไม่ 

ให้เข้า mxtoolbox.com และ พิมพ์ชื่อโดเมนตัวเอง หลังจากนั้น คลิกไปที่ MX Lookup

เว็บไซต์จะแสดงว่า Domain ของคุณใช้ IP อะไร และ สามารถคลิ้กไปที่ Blacklist Check

เนื่องจากฐานข้อมูล Blacklist ในโลกนี้มีจำนวนมาก ดังนั้นหาก Status ขึ้นเป็น OK ทั้งหมด แสดงว่า
IP ของคุณไม่ติด Blacklist


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไม Email ที่ถูกแถมมากับเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ถึงมีปัญหา ?
Web Hosting เว็บโฮสติ้ง คือ อะไร และ ทำงานอย่างไร
การใช้ Email Hosting อีเมล์อย่างปลอดภัย ไม่ให้ติดไวรัส Virus
วิธีทำ mailing list หรือ ส่ง Email จำนวนมากๆ สำหรับองค์กรขนาดใหญ่
สแปมเมล์ (Spam or Junk Email) คืออะไร ปัญหาใหญ่สำหรับระบบอีเมล์ธุรกิจ
Bounce หรือ อีเมล์ตีกลับ high bulk ratio คือ อะไร


วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การใช้อีเมล์เป็นประจำ ใช้งานเยอะ ๆ หนัก ๆ ควรเช่า Mail server หรือไม่



เมื่อเรามีธุรกิจ หรือมีองค์กรเป็นของตนเอง แน่นอนว่าการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล์ต้องเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในธุรกิจ และถ้าเกิดว่าเรายังใช้ Free email ในการติดต่อกับคู่ค้าอยู่ นั่นอาจหมายถึงเรากำลังทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรเราไป ผู้ติดต่ออาจมองว่าเราไม่ลงทุน หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ว่าเราเป็นบริษัทที่มีตัวตนอยู่จริง หรืออาจจะกำลังหลอกขายสินค้าอยู่หรือเปล่า

ธุรกิจโดยส่วนใหญ่มักจะมีการใช้งานอีเมล์ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ ๆ เช่น บริษัทขนส่ง ส่งออก ทำธุรกิจ Logistic ที่ต้องใช้งานอีเมล์อยู่ตลอดเวลา


การใช้ Free Email (แบบไม่เช่า Mail Server)

การใช้ Free Email ที่ผู้ให้บริการชื่อดัง เปิดโอกาสให้สมัครกันฟรี ๆ และได้พื้นที่ Mailbox ไปใช้กันเต็มอิ่ม และแถม Features ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากนั้น มีข้อดีคือ ฟรี! คำเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ทว่าในแง่มุมของการนำไปใช้กับธุรกิจนั้น ของฟรี อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป สิ่งที่อาจจะสร้างความไม่สะดวกมาก ๆ เมื่อใช้ฟรีอีเมล์คือ เราจะไม่สามารถตรวจสอบ Log การส่งออกรับเข้าของอีเมล์ได้เลย ว่าอีเมล์ใดบ้างที่ส่งเข้ามาหาเราในวันนี้ เมื่อวานนี้ รวมถึงหากมีปัญหาส่งข้อความไปแล้ว ข้อความไม่ไปเข้า Mailbox ของผู้รับ เราก็ไม่มีทางรู้ได้อีกว่า Mail server เรามีปัญหาอะไรหรือไม่ และเราก็อาจจะไม่มีที่ปรึกษาเรื่องระบบที่ใช้งานอยู่ ว่าการทำงานของระบบ Mail Server ที่ใช้นั้นเป็นอย่างไร ติดปัญหาอะไรไหม ดังนั้นการใช้ของฟรีอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับคนทำธุรกิจอีกต่อไป


การใช้ Business Email (แบบเช่า Mail Server)

ถึงแม้ว่าการลงทุนจ่ายราคาค่าบริการ Mail Server นั้น แพงกว่าการใช้ฟรีอีเมล์ก็ตาม แต่การเช่า Mail Server ก็มีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน สามารถอธิบายให้ผู้อ่านได้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

1. มั่นใจว่า Mail Server นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการรับส่งอีเมล์โดยเฉพาะ โดยที่ server จะไม่ถูกใช้รวมกับเว็บไซต์ ทำให้การใช้งานค่อนข้างเสถียรกว่า Mail Server ทั่ว ๆ ไปที่แถมมากับ Web Hosting
2. มีความปลอดภัยสูง ในส่วนนี้ผู้ให้บริการที่ดีจะเลือกใช้ Mail Server ที่มีมาตรฐาน เช่น SSL Certificate, มีระบบจัดการสแปมและแอนตี้ไวรัสที่ประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะลดความเสี่ยงเรื่องการถูกแฮคข้อมูล, Phishing email ได้เปราะหนึ่ง
3. มีเจ้าหน้าที่คอย Service หรือให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ข้อนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมล์โฮสติ้งแต่ละเจ้าด้วยว่าเขามีเงื่อนไขการให้บริการอย่างไร ถ้าเจอผู้ให้บริการที่ไม่ดีก็อาจจะเป็นโชคร้ายของเราไป
4. ถ้ามีการใช้งานอีเมล์หนัก ๆ จริง ๆ ก็ต้องมีคนคอย Monitoring การใช้งานของ Users ในองค์กรเรา ซึ่งถ้าระบบจัดการภายในของ Mail Server ไม่ดี การควบคุมปัญหาหรือป้องกันปัญหานั้นก็ค่อนข้างยาก บางทีอาจจะเจอปัญหาพร้อม ๆ กันในช่วงเวลาเดียวกัน อาจจะทำให้ Users ที่ไม่มีผู้ให้บริการคอยดูแลโดยเฉพาะองค์กรที่มี Mail Server เอง ทำให้สติแตกก็เป็นได้ เพราะต้องคอยแก้ระบบ และคอยรับปัญหาจาก Users มาตรวจสอบและแก้ไขอีก
5. สามารถตรวจสอบภาพรวมของการใช้งานอีเมล์ของ Users ในองค์กรได้ ระบบบริหารจัดการอีเมล์ที่มีประสิทธิภาพดีนั้น จะต้องตรวจสอบ Log การรับส่ง, การเข้าใช้งานของแต่ละ Users ได้ และสามารถเข้าไปจัดการ Reset password ของ Users ได้ด้วยตัวของ Admin เอง

เหตุผลที่เราควรเช่า Mail Server ก็มีอยู่มากมาย แต่สรุปมาให้ผู้อ่านประมาณนี้
หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจข้อดีของการเช่า Mail Server ได้มากขึ้น

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บริษัทดูแลระบบอีเมล์ วิธีเลือก และ บทวิเคราะห์ "ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน"

จะเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" ที่ไหนดี

เราอยู่ในยุคที่ "ทุกบริษัท ต้องมีอีเมล์" 

หากคุณทำงานในบริษัทใดๆ ก็ตาม, คุณจะพบว่าการสื่อสารในธุรกิจปัจจุบันนั้นใช้งาน "อีเมล์" ในการติดต่อเป็นหลัก แทนการติดต่ออื่นๆ เช่น โทรศัพท์ หรือ แทบจะมีลำดับความสำคัญอันดับต้นๆ ของบริษัทคุณเลยทีเดียว ดังนั้น การเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" นั้นมีความสำคัญมาก, เพราะหากคุณเลือกผิดคุณก็จะพบกับปัญหาการใช้งานมากมาย

จะเลือก "บริษัทดูแลระบบอีเมล์" อย่างไร


วิธีเลือก บริษัทดูแลระบบอีเมล์ สำหรับ บริษัทของคุณ

  1. ต้องเลือกบริษัท ที่มีความน่าเชื่อถือ และ เปิดบริการมานาน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีความมั่นคง และ เมื่อคุณใช้งานไป บริษัทเหล่านี้คงไม่ปิดหนีหายคุณไปแน่ๆ

  2. มีการ Support หรือ การบริการหลังการขายที่ดี, เพราะระบบทุกระบบย่อมมีปัญหา, ปัญหาที่อาจจะเกิดจากตัวคุณไม่เข้าใจในเทคโนโลยี หรือ ปัญหาที่เกิดจากระบบของผู้ให้บริการเอง ดังนั้น เมื่อมีปัญหาคุณควรได้รับบริการที่ดี จากผู้ให้บริการ Mail Server อยู่เสมอ

  3. ผู้ให้บริการ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยต่อข้อมูลลูกค้า, ผู้ให้บริการ mail server ควรมีใบรับรองความปลอดภัยที่ถูกออกโดยหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข้อมูลของลูกค้านั้นมีความปลอดภัย

  4. Spam Mail คุณรู้หรือไม่ ว่ามีบริษัทจำนวนมากพบกับปัญหา Spam Mail อย่างมหาศาล เนื่องจาก เลือกผู้ให้บริการที่ผิดพลาด, เนื่องจากหากเป็นระบบ Mail Server ทั่วไป จะมีการกรองที่มีคุณภาพต่ำ, แต่หากเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานระบบการกรอง Spam หรือ Junk Mail จะแทบเป็นศูนย์

  5. IP ติด Blacklist, หากคุณเลือกผู้ให้บริการที่ไม่ได้ให้บริการ Mail Server โดยเฉพาะ, คุณต้องพบกับปัญหา อีเมล์บริษัทของคุณไม่สามารถส่งเข้าไปยัง Hotmail, Gmail, Yahoo หรือ ปลายทางบางที่ได้, และปัญหานี้จะเป็นไปเรื่อยๆ เพราะ Mail Server ของคุณติด Blacklist

ปัญหาเหล่านี้มิใช่ผู้ให้บริการไม่ทราบ, และ เค้าก็ไม่ผิดที่จะไม่บอกคุณ, เพราะถ้าบอกคุณก็คงไม่ซื้อบริการ Mail Server จากเค้า


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
"บริษัทดูแลระบบอีเมล์" มาตรฐานระดับสากลที่ดีที่สุด

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ระบบอีเมล์สำหรับองค์กร และอีเมล์ใช้ภายในองค์กร (corporate email)

ระบบอีเมล์สำหรับองค์กร และใช้ภายในองค์กรและสำนักงาน
อีเมล์สำหรับองค์กร คือ อีเมล์ name@company.com/.co.th ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานภายในองค์กรและธุรกิจของตนเอง เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและความน่าเชื่อถือ

อีเมล์สำหรับองค์กร (Email for corporate) ยังช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ของคุณให้แก่ลูกค้า และผู้ติดต่อ เพราะเราต้องยอมรับว่าการใช้ Free Email ในการติดต่อธุรกิจ เช่น @hotmail,@gmail,@yahoo ล้วนทำให้ลูกค้ากังวลเรื่องความน่าเชื่อถือต่อองค์กรของคุณ

หลายๆคนที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ต้องมีความแคลงใจแน่ๆ ว่าแล้วเราจะมีอีเมล์เป็นขององค์กรตัวเองได้อย่างไร แค่ความรู้เรื่องคอมฯพื้นฐานเราก็แทบแย่แล้ว

เราต้องเข้าใจว่าการซื้ออีเมล์สำหรับองค์กร ไม่ใช่เป็นการซื้อครั้งเดียวแล้วจบ เพราะถึงแม้ว่าระบบจะดีแค่ไหน มันก็ต้องมีปัญหาการใช้งานไม่มากก็น้อย เหมือนกับการใช้งานค่ายโทรศัพท์ ไม่ว่าจะบอกว่าตัวเองยี่ห้อดีแค่ไหน ยังไงมันก็ต้องมีล่มกันบ้าง

MailDee.com
ผู้ให้บริการระบบอีเมล์สำหรับองค์กร Email for Corporate
www.maildee.com/อีเมล์สำหรับองค์กร

ต้องมั่นใจและต้องซื้อกับ บริษัทที่ให้บริการด้านนี้โดยเฉพาะ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเจอกับปัญหา ใช้งานไปแล้วเกิดปัญหา เพราะการใช้งานอีเมล์สำหรับองค์กร มาตรฐานไม่สูงเท่ากับการใช้ Email ของ Hotmail,Gmail,Yahoo เพราะฟรีอีเมล์เหล่านี้เป็นระบบระดับโลก ที่มี Server กระจายอยู่ทั่วโลกรวมถึงทีมวิศวกรรมชั้นยอดทำงานร่วมกันตลอดเวลา ซึ่งระบบอีเมล์สำหรับองค์กร นั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก

แต่ละบริษัทที่ให้บริการ แต่ละระบบ คุณภาพ มาตรฐานก็ต่างกัน แต่เรื่องการให้บริการนั้นสำคัญมากๆ ขอย้ำอีกครั้ง และต้องสมเหตุสมผล ไม่ใช้ถูก หรือแพงจนผิดปกติ ให้ลองนึกถึงดูว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าบริษัทเค้าสามารถขายอีเมล์องค์กรให้คุณในราคาที่ถูกแสนถูก ทั้งๆที่ความเป็นจริง เค้าต้องมีวิศวกรคอมพิวเตอร์  ทีมให้บริการหลังการขาย ซึ่งเป็นต้นทุนต่อเดือน หลายหมื่น-แสนบาท

หลักในการเลือกซื้ออีเมล์สำหรับองค์กร
1.เลือกซื้อกับบริษัทให้ที่บริการด้านนี้โดยตรง
2.เลือกซื้อกับบริษัทที่ให้บริการหลังการขายที่ดี เพราะคุณต้องเกิดปัญหาการใช้งานแน่ๆ แล้วคุณจะถามใครนอกจากผู้ให้บริการ
3.ราคาต้องสมเหตุสมผต ไม่ถูกจนผิดปกติ หรือแพงเว่อร์จนเกินไป


บทความที่เกี่ยวข้อง
8 ข้อดีของการใช้ Email (อีเมล์) สำหรับองค์กร ภายใต้ชื่อบริษัท/องค์กร ของตนเอง
การใช้อีเมล์ในการติดต่อสื่อสารระหว่างสาขา ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์กรได้อย่างไร
วิธีการ check ข้อมูลการรับ-ส่ง อีเมล์ของคนพนักงานในองค์กร (สำหรับหัวหน้างาน) [Mozilla Thunderbird]

MailDee.com
ผู้ให้บริการระบบอีเมล์สำหรับองค์กร Email for Corporate
www.maildee.com/อีเมล์สำหรับองค์กร

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธีเลือกซื้อ Web Hosting (เว็บโฮสติ้ง) ที่ไหนดีที่สุด พร้อม บทวิเคราะห์อย่างละเอียด

บทวิเคราะห์ที่ละเอียดที่สุดสำหรับการเลือกซื้อ
เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting)

บทวิเคราะห์สำหรับการเลือกซื้อ เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) 


หลายๆคนที่มีเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บส่วนตัวหรือเว็บของหน่วยงานองค์กรบริษัทของตนเอง หากต้องการนำขึ้นเว็บสิ่งแรกที่ต้องมี คือ  เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) หรือ แปลตรงๆ ก็แปลว่าที่ฝากเว็บไซต์ ผู้เขียนในฐานะที่อยู่ในแวดวง Web Hosting มามากกว่า 10 ปี ขอให้ผู้ซื้อวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่ให้บริการ Web Hosting ก่อนที่จะทำการซื้อดังนี้



  1. Web Hosting ต้องไม่ล่มผู้ให้บริการ Web Hosting ต้องเป็นบริษัทที่มั่นคง



    ควรเลือกซื้อหรือเช่าเว็บโฮสติ้งจากบริษัทที่มีความมั่นคง


    เป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทที่มีความมั่นคงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น และเชื่อถือมากกว่าบริษัทเล็กๆ หรือ คนขาย Hosting ที่เป็นบุคคลธรรมดา แต่ในทางกลับกัน หากคุณเลือกซื้อ Web Hosting กับ บริษัทที่มีความมั่นคงหรือมีชื่อเสียง ราคานั้นก็จะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะบริษัทใหญ่ๆ ต้องมีค่าบริหารจัดการที่ทำให้ Hosting ที่คุณใช้มีความเป็นมาตรฐาน แต่ผู้เขียนแนะนำว่าเป็นสิ่งที่คุณควรจะต้องจ่าย ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะต้องประสบปัญหา เช่น โทรหาไปยังผู้ให้บริการ Hosting ไม่ได้เพราะปิดมือถือ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากมาย และ ทำให้คุณต้องย้าย Hosting ในที่สุด
  2. ผู้ให้บริการส่วนมากมักจะโฆษณาว่า 99.999% Uptime

    การล่มของเว็บโฮสติ้งนั้นมีผลต่อธุรกิจของคุณ
    ซึ่งแปลว่า ซึ่งค่าเฉลี่ยที่ผู้เขียนวิเคราะห์ลงไปอย่างละเอียดจะเป็นดังนี้
    99.999% uptime = 5 นาที downtime / ปี
    99.99% uptime = 53 นาที downtime / ปี
    99.9% uptime = 8 ชั่วโมง 45 minutes downtime / ปี
    99% uptime = 3.65 วัน downtime / ปี

    ซึ่งแปลว่าทั้งปีห้ามล่มเกิน 5 นาที ซึ่งผู้เขียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่เพียงทำการ Restart Server บางทีเผลอๆ ก็ใช้เวลาไปเกิน 5 นาทีแล้ว ซึ่งมันเกิดแน่นอนดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันก็ควรจะเป็นช่วงเย็นเท่านั้น ไม่ใช้ตอนกลางวัน
  3. Server ต้องอยู่ใน Data Center จริงๆ
    Datacenter เป็นห้องที่ความมั่นคงสูง เช่น

    Server ของคุณต้องตั้งอยู่ใน Data Center
    3.1 ต้องมีอุณหภูมิและความชื้นคงที่  เหมาะสมตามค่ามาตรฐานสากล

    3.2 ต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่เป็นมาตรฐาน

    3.3 ต้องมีวิศวกรคอยควบคุมตลอดเวลา
    ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเสถียร และความปลอดภัยของ Server ซึ่งคุณได้ใช้อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับราคาที่อาจจะสูงกว่าปกติด้วย
  4. ต้องมีความปลอดภัย

    SSL คือ ใบรับรองความปลอดภัยของข้อมูล


    ผู้ให้บริการไม่กี่รายนักในประเทศไทย ที่ได้มีการเก็บข้อมูลของลูกค้าด้วยการเข้ารหัส ที่ได้รับรับรอง SSL Certificate หรือ ใบรับรองความปลอดภัย ซึ่ง SSL Certificate เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ระหว่างคุณกับผู้ให้บริการ Web Hosting นั้นมีความปลอดภัยที่สุด

  5. Support เป็นหัวใจและสิ่งสำคัญที่สุด

    การให้บริการลูกค้าด้วยทีมวิศวกรที่มีความเป็นมืออาชีพ นั้นเป็นหัวใจที่สำคัญ


    5.1 Live Chat
    Live Chat เป็นรูปแบบการ Support ที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ที่มีมาตรฐานจะให้ลูกค้าได้ใช้บริการ ซึ่ง Live Chat ค่อนข้างสำคัญมาก จากมุมมองผู้เขียนเพราะบางทีต้องส่งข้อมูลซึ่งเป็น ตัวอักษรยึกยือ ซึ่งบางทีการโทรคุยกันอาจจะไม่สะดวก หรือทางอีเมล์ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้คำตอบ


    5.2 Remote Support

    เป็นการช่วยเหลือเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด
    การ Support ด้วยการควบคุมหน้าจอจากระยะไกล 


    Remote Support เป็นรูปแบบการให้บริการที่ดีที่สุด ที่มีผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่กี่รายในประเทศให้บริการ Support ในรูปแบบนี้ เนื่องจากต้องใช้ทั้งทรัพยากรทีมวิศวกร, เวลา, Software และอุปกรณ์ด้าน Hardware ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ผู้ให้บริการ Web Hosting ไม่สามารถให้บริการในรูปแบบนี้ได้เพราะมีราคาสูง
    ในมุมมองผู้เขียนมองว่าการ Remote Support เป็นการ  Service ที่ดีที่สุด เพราะว่า วิศวกรของบริษัทผู้ให้บริการนั้นสามารถมองเห็นปัญหาจากหน้าจอของคุณจริงๆ และสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ทันที

    5.3 Email หรือ Ticket Support 
    เป็นรูปแบบการให้บริการ Support พื้นฐานที่ทุกบริษัทที่ให้บริการด้าน Web Hosting ควรที่จะมี หากไม่มีข้อนี้ คุณควรเปลี่ยนเจ้าโดยทันที เพราะอาจจะทำให้คุณติดต่อผู้ให้บริการไม่ได้

    5.4 Call Support
    เป็นรูปแบบบริการพื้นฐาน เช่นเดียวกัน จากประสบการณ์​ของผู้เขียนที่ได้พูดคุยกับโปรแกรมเมอร์จำนวนมาก มักพบว่าบริษัทหรือหน่วยง่ายหลายๆที่ ไม่ได้ให้ลูกค้าคุยกับวิศวกร แต่กลับให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความรู้ในการแก้ไขปัญหามารับสายหรือรับเรื่องเอาไว้ ซึ่งทำให้ปัญหาของคุณถูกดองไว้ ซึ่งเสียเวลาและเกิดความไม่สะดวกกับทางคุณเช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง มาตรฐานสูงสุดสำหรับองค์กรและธุรกิจ

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

ทำไมการ Support ถึงมีความสำคัญในการซื้อ อีเมล์บริษัท




การทำธุรกิจคุณต้องพบทั้งความเสี่ยง ความเคียด ความกดดัน คู่แข่ง ลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบอกว่าบริษัทของคุณนั้นจะอยู่ได้หรือไม่ แต่หากคุณยังต้องมาเสียเวลากับปัญหาการใช้ อีเมล์บริษัทอีก อาจจะทำให้คุณไม่มีเวลาเหลือไปทำธุรกิจอีกเลย ซึ่งในบทความนี้จะเขียนว่าเพราะเหตุผลใดที่การ Support หรือ การให้บริการหลังการขายที่ดีจากผู้ให้บริการ อีเมล์บริษัท นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

  1. การใช้งาน อีเมล์บริษัท ต้องมีการตั้งค่าบนโปรแกรม Outlook ซึ่งคนที่มิได้มีความรู้ในส่วนนี้ต้องแจ้งให้ทางทีม Support ให้คำแนะนำ หากไม่ได้รับคำแนะนำคุณอาจจะใช้อีเมล์บริษัทไม่ได้ หรือ มีปัญหาการใช้งาน
  2. การตั้งค่าบนอุปกรณ์พกพา เช่น มือถือ, iPad, iPhone, Samsung ล้วนต้องมีความรู้พื้นฐานจากการใช้งานอีเมล์บริษัทมาก่อน ซึ่งการตั้งค่าแตกต่างกับการตั้งค่าเหมือน Free Email ทั่วไปจาก Gmail, Hotmail ซึ่งมีวิธีการตั้งค่าที่ง่ายมาก
  3. ความรวดเร็วในการ Support เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการสื่อสารในปัจจุบันนั้นใช้งานผ่านอีเมล์เป็นหลัก ซึ่งแสดงว่าหากคุณมีปัญหาการใช้งานคุณควรที่จะได้รับการช่วยเหลือจากทีม Support อย่างรวดเร็วที่สุด
  4. ช่องทางการ Support ผู้ให้บริการอีเมล์บริษัท ควรจะเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีทีมงานที่แยกออกเป็นสัดส่วน เช่น ทีมงาน Support (บริการหลังการขาย) และ ควรจะมีช่องทางให้ติดต่อที่สะดวกต่อลูกค้า เช่น Call Center, Live Chat หรือ แม้แต่การช่วยเหลือในระดับการ Remote มายังหน้าจอของลูกค้าซึ่งถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  5. ความจริงใจในการช่วยเหลือลูกค้า การใช้อีเมล์บริษัท ค่อนข้างเป็นการซื้อขายที่ผูกขาดด้านระยะเวลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเสียค่าบริการเป็นรายปี ซึ่งแสดงว่าบริษัทผู้ให้บริการต้องมีนโยบายและแสดงความจริงใจอย่างชัดเจนต่อลูกค้า ว่าจะช่วยเหลือลูกค้าตลอดระยะเวลาการให้บริการ


บทความที่เกี่ยวข้อง


บทความโดย

บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด, ผู้นำระบบ อีเมล์บริษัท, อีเมล์องค์กร

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ระบบอีเมล์สำหรับธุรกิจทัวร์ โรงแรมและ ธุรกิจท่องเที่ยว และวิธีทำให้อีเมล์เป็น @ชื่อโรงแรม ตัวเอง

ทำได้อย่างไร
วิธีการทำอีเมล์ Email @yourhotel หรือ @ชื่อโรงแรมของคุณ สำหรับธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว

วิธีทำให้อีเมล์ Email ลงท้ายด้่วย @ชื่อโรงแรมของตนเอง

เป็นที่ยอมรับว่าการใช้อีเมล์ติดต่อสื่อสารนั้นรวดเร็วนั้น สะดวก, ประหยัดและมีประสิทธิภาพในการใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านโรงแรม, ธุรกิจทัวร์และธุรกิจท่องเที่ยว เพราะต้องมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ต้องการความเชื่อมั่นและความเชื่อถือ 

การใช้อีเมล์ @ ชื่อโรงแรม เป็น วิธีที่ช่วยความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถบ่งบอกลูกค้าและผู้ติดต่อได้ทันทีว่า ลูกค้านั้นติดกับคุณจริงๆ แทนการใช้ฟรีอีเมล์ทั่วไป

มีความสัมพันธ์ต่อภาพลักษณ์ของบริษัทหรือโรงแรมของคุณมาก
การทำอีเมล์ Email @ชื่อโรงแรม สำหรับธุรกิจโรงแรม ทำอย่างไร ?

บริการ Email Server สำหรับโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว

  • คุณสามารถมีอีเมล์เป็น @ชื่อโรงแรม.com หรือ ชื่อบริษัทของคุณ โดยการเลือกหาบริษัทผู้ให้บริการ Email Server
  • ผู้ให้บริการ Email Server จะสอบถามว่าคุณต้องการชื่อ Email ลงท้ายด้วยชื่อ อะไร,​และผู้ให้บริการจะนำชื่อนั้นไปตรวจสอบว่ามีคนใช้ไปหรือยัง หากมีคนใช้ไปแล้วคุณก็ต้องคิดชื่อใหม่ๆ
  • ผู้ให้บริการ Email Server จะติดตั้งระบบอีเมล์ให้เป็นชื่อ @ชื่อโรงแรม.com ของคุณ เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้ว บริษัทผู้ให้บริการก็จะส่ง Username และ  Password และหน้าเว็บสำหรับการเช็คอีเมล์ให้คุณ
  • บริษัทผู้ให้บริการที่รองรับเทคโนโลยี IMAP อาจจะมีการส่งคู่มือการตั้งค่าใน อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เช่น Smart Phone, iPhone, iPad, Android 

บทความที่เกี่ยวข้อง
ระบบอีเมล์เซิฟเวอร์ สำหรับโรงแรม โดย มีวิธีสามารถกำหนดให้ @ชื่อโรงแรมได้
การใช้อีเมล์ในกระบวนการทางธุรกิจช่วยทำให้องค์กรของคุณมีประสิทธิภาพได้อย่างไรบริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้นำระบบอีเมล์สำหรับโรงแรม (Email Server for Hotel Business)
การใช้งานอีเมล์สำหรับธุรกิจโรงแรมช่วยลดการทุจริต หรือ การโกง ของลูกน้องและพนักงานได้อย่างไร
วิธีเลือกซื้อ Email (อีเมล์) สำหรับชื่อ @โดเมนตัวเอง/องค์กร/บริษัท แบบประหยัด(ถูก) และดี


บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอีเมล์สำหรับโรงแรม และบริษัท